ศาลแจงขั้นตอนดำเนินคดี "เยาวชนวัย 14ปี" ก่อเหตุยิงที่พารากอน "พ่อแม่" อาจต้องรับผิดทางแพ่ง
4 ต.ค. 2566, 11:35
วันที่ 4 ตุลาคม 2566 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงแนวทางการดำเนินคดีกับเยาวชนชายอายุ 14 ปี ที่ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงประชาชนในห้างดัง มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ว่า ในการจับกุมเยาวชน ศาลเยาวชนฯ จะมีกระบวนการตรวจสอบการจับกุม ตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวน ต้องนำตัวเด็กหรือเยาวชน ส่งศาลเยาวชนฯ ภายใน24 ชั่วโมง เพื่อให้ศาลตรวจสอบการจับก่อนว่าการจับกุมเด็กหรือเยาวชน การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเยาวชน เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่
นายสรวิศ กล่าวอีกว่า ปกติการจับกุมเด็กหรือเยาวชนที่กระทำความผิด กฎหมายให้อำนาจพนักงานสอบสวนควบคุมตัวไว้ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ส่วนมากก็จะนำตัวมาส่งศาลเยาวชนฯ เพื่อให้ศาลใช้ดุลยพินิจ ว่าจะควบคุมตัว หรือจะให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไรต่อไป หลังจากตรวจสอบการจับกุม ศาลจะรอดูรายงานการจับกุมจากพนักงานสอบสวน ที่นำส่งมาให้ศาลพิจารณาว่าพฤติการณ์ของเยาวชนรายนี้เป็นอย่างไรบ้าง เช่น ศาลจะดูว่าเด็กก่อเหตุยิงไปกี่คน สภาพทางจิตใจ การรักษาพยาบาลทางจิต การดูแลของพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะต้องใส่มาในรายงานให้ศาลพิจารณา และในการตรวจสอบการจับ พนักงานสอบสวน ก็จะต้องเดินทางมาศาลเยาวชนฯ ด้วย ซึ่งศาลอาจจะต้องทำการไต่สวนพนักงานสอบสวน เพิ่มเติม ถึงข้อมูลต่างๆ ที่พนักงานสอบสวน ใส่มาในรายการการจับกุม จากนั้นศาลจะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนว่า จะใช้ดุลยพินิจในการปล่อยตัว หรือจะควบคุมตัว เด็ก หรือเยาวชน ที่ก่อเหตุหรือไม่
“กรณีของเด็กที่มีเรื่องของอาการป่วยทางจิต หากศาลเห็นว่าถ้าพ่อแม่เด็กดูแลเด็กได้ ก็จะให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองดูแล และอาจวางมาตรการต่างๆกำหนดไว้ แต่หากพ่อแม่เด็ก ดูแลไม่ได้ ก็อาจจะให้องค์กร หรือหน่วยงานที่ดูแลด้านเด็ก ดูแลแทน หรือสถานที่อื่นที่ศาลเห็นสมควร เช่น สถานดูแลทางจิตเวช ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ของเด็ก ว่า รุนแรงขนาดไหน และต้องใช้มาตรการอะไรที่จะมาควบคุมดูแลเด็กเหล่านี้” นายสรวิศ กล่าว
นายสรวิศ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของพ่อแม่ของเด็กนั้น ตามกฎหมายหากเป็นเด็กหรือเยาวชน ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พ่อแม่ก็ต้องรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 429 เว้นแต่พ่อแม่จะพิสูจน์ข้อยกเว้นตามกฎหมายได้ว่า ตนเองไม่ได้มีส่วนผิด
“กฎหมายให้ดูพฤติการณ์ของแต่ละเรื่องไป ยกตัวอย่างเช่น ใน 1 คดี มีเด็กทำผิดกฎหมาย 10 คน ศาลอาจจะใช้มาตรการ ที่ต่างกันไปของทั้ง 10 คนก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ และความจำเป็นของเด็กแต่ละคน เหมาะสมแค่ไหน” โฆษกศาลยุติธรรม กล่าว