ลูกช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัว จังหวัดบึงกาฬพลัดหลงโขลงอีกแล้ว อายุประมาณ 1 เดือนเศษในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่นำมาบริบาลรอแม่มารับ เช่นเดียวกับเมื่อ 4 ปีที่แล้วลูกช้างป่า”ชบาแก้ว”ตกบ่อเกราะแม่ไม่รับเข้าโขลงจึงต้องนำมาบริบาลจนแข็งแรง แต่ได้ติดเชื้อไวรัสภายหลังล้มตายในเวลาต่อมา

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 ก.ย.นายวิษณุ กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์ป่าภูวัว อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ขณะเข้าประชุมที่กรุงเทพฯ ว่าสืบเนื่องจาก วันที่ 12 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 07.00 น.ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเทพมีชัย ว่าพบลูกช้างพลัดหลงโขลง จำนวน 1 ตัว บริเวณสวนยางพาราป่านาตู้ดำ ต.หนองเดิ่น อ.บุงคล้า จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่า,สายตรวจฯ,หน่วยพิทักษ์ป่าชะแนน ต.บ้านต้อง อ.เซกา เข้าตรวจสอบ พบลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณเบื้องต้น ไม่เกิน 1 เดือน ตรวจสอบและเฝ้าระวังเพื่อให้โขลงแม่ช้างป่ากลับมารับลูก จนถึงเช้าวันที่ 13 กันยายน 2566 ไม่พบโขลงช้างป่าของแม่ช้างน้อยมารับตามที่มุ่งหวัง จึงประสานทีมสัตวแพทย์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี เพื่อทราบแนวทางการจัดการ และเห็นสมควรนำลูกช้างป่าออกจากพื้นที่มาตรวจดูอาการและบริบาลในเบื้องต้น ที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านขามเปี้ย ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า เพื่อสะดวกในการดำเนินการ จนถึงปัจจุบันลูกช้าป่ามีสภาพแข็งแรงขึ้น และต้องรอวินิจฉัยสุขภาพลูกช้างป่าของทีมแพทย์เพื่อนำลูกช้างกลับคืนสู่โขลง จึงต้องให้อาหารเสริมประเภทวิตามินซีและแคลเซียมเสริมตามสมควร โดยการควบคุมของทีมเเพทย์

ด้านนายปราโมทย์ อรกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ​ ลงพื้นที่เพื่อติดตาม ความคืบหน้า ลูกช้างพลัดหลง ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วย ทีมสัตวแพทย์ประจำสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ตรวจอาการของลูกช้างเบื้องต้น พบว่า ลูกช้างมีอาการท้องเสีย สัตวแพทย์จึงดำเนินการรักษาโดย ให้น้ำเกลือ ให้แคลเซียม เก็บตัวอย่างมูลช้างและเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปตรวจหาอาการต่อไป ทั้งนี้มีการเฝ้าระวังประเมินอาการตลอด 24 ชั่วโมง และได้กำชับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ให้แจ้งประชาสัมพันธ์ งดการเข้าเยี่ยมชมลูกช้าง จนกว่าอาการลูกช้างจะดีขึ้นต่อไป