ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด หลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมกำลังเก็บหลักฐาน 

 โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าไปตรวจสอบด้านในอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินออกมาให้สัมภาษณ์ ระบุว่า การลงพื้นที่วันนี้มีการระดมกำลังกันจากหลายหน่วยงานทั้งตำรวจสอบสวนกลาง, ตำรวจภูธรภาค 7, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), ป.ป.ช., ป.ป.ง., ป.ป.ท., สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน, กรมสรรพากร โดยมีการตรวจค้นทั้งหมด 15 จุด จากการตรวจค้น พบปืน 16 กระบอก, กระสุนกว่า 200 นัด ซึ่งจะนำปืนทุกกระบอกที่ตรวจพบไปยิงทดสอบหัวกระสุนว่าเคยก่อเหตุกับคู่กรณีต่างๆ หรือไม่ 

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในบริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ฯ ยังพบรถคันที่ใช้หลบหนี คันหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสภาพ ถอดไฟท้ายออกไป เพื่อไม่ให้จดจำได้ง่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บดีเอ็นเอ และพยานหลักฐานในตัวรถไว้หมดแล้ว โดยรถทั้ง 2 คันที่ใช้หลบหนี มาอยู่ที่โรงงานได้อย่างไร / พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ต้องตรวจสอบเส้นทางอีกครั้งหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ได้ถอดกล้องวงจรปิดภายในบริษัทไปตรวจสอบความเชื่อมโยงทั้งหมดว่าใครเข้ามาดำเนินการอะไรในนี้บ้าง และยึดเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบเรื่องการประมูลต่างๆ ว่ามีการฮั้วประมูลหรือไม่ 

โดย หลังเกิดเหตุมีตำรวจที่พากำนันนกหนีมาที่บ้านกี่คน / พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า มี 2 คนที่พากำนันนกหลบหนี ซึ่งนั่งมาในรถด้วยกัน มีการประกบซ้าย-ขวา โดยตอนนี้ดำเนินคดีไปทั้งสองคนแล้ว 

โดยจากการสอบถามคนในบริษัท ไม่มีใครให้ข้อมูลอะไร คาดว่าน่าจะถูกสั่งไว้แล้วว่าไม่ให้พูด แต่เชื่อว่าพยานหลักฐานที่ได้วันนี้จะนำไปสู่บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเรื่องประมูลงานต่างๆ 

ส่วนความก้าวหน้าของเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุที่ถูกโยนทิ้งน้ำนั้น / พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า วันพรุ่งนี้น่าจะทราบข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญยืนยันแล้วว่ากู้ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าข้อมูลที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์จะนำไปขออนุมัติหมายจับคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้

ส่วนกรณีของน้องชายกำนันนกที่เดินหลบออกจากบริษัทขณะตรวจค้นวันนี้ อาจจะรู้เรื่องรถทั้ง 2 คันที่นำมาจอดเก็บไว้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า ขอตรวจสอบพยานหลักฐานที่ได้มาก่อน แล้วจะรู้ได้ว่าใครมีส่วนช่วยเหลือบ้าง หากน้องชายมีส่วนช่วยเหลือก็จะถูกดำเนินคดีด้วย