"เศรษฐา" แจงไม่มีแนวคิดรื้อ "รังนกกระจอก" เตรียมปรับปรุงให้ดีขึ้น
4 ก.ย. 2566, 13:37
วันนี้ ( 4 ก.ย.66 ) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงการเข้าไปดูพื้นที่ต่างๆ ห้องทำงาน ห้องประชุมต่างๆ ห้องประชุม ครม. รวมไปถึงการไปดูห้องทำงานของสื่อมวลชนด้วย ซึ่งยืนยันว่า ไม่มีแนวคิดรื้อห้องทำงานสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล หรือรังนกกระจอก เพียงไปรับฟังว่าใครอยู่ตรงไหน ที่นั่งสื่อมวลชนมีอยู่ 2-3 ที่ เราต้องการทำให้ดีขึ้น เพียงแค่ไปดูเพื่อปรับปรุงให้ฝ่ายบริหารเข้าถึงฝ่ายสื่อมวลชนให้ดีขึ้น อาจจะมีการปรับปรุงบ้าง แต่โดยรวมความเป็นอยู่ต้องดีขึ้น ทั้งนี้ไม่เคยใช้คำว่าจัดระเบียบเป็นเพียงแค่ไปดูว่าความเป็นอยู่ของพี่น้องสื่อมวลชนเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็ยืนยันถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรทุกอย่างต้องดีขึ้น ไม่ใช่การไปจัดระเบียบหรืออะไร ผมไม่เคยใช้ ยืนยันว่าไม่มีอย่างแน่นอน ขอให้สบายใจได้ เพราะเห็นว่ามีที่ทำงานของพี่น้องสื่อมวลชน มีอยู่ 2-3 ที่ ก็จะทำให้ดีขึ้น ก็อยากทำให้สบายขึ้น รวมถึงการทำงานร่วมกัน การเข้าถึงประชาชนได้ก็ต้องอาศัยสื่อมวลชน เพราะฉะนั้นการที่ฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีและเลขาฯ ที่ปรึกษาฯ ก็อยากให้มีสถานที่ที่ลงมาพบปะกับพี่น้องสื่อมวลชน ซึ่งจะเป็นการลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหารกับประชาชนผ่านสื่อมวลชนด้วย
ส่วนจะมีการปรับปรุงห้องทำงานนายกรัฐมนตรี เยอะหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีเวลาในการดูห้องไม่มาก อาจจะต้องเข้าไปทำงานก่อน เพราะลักษณะการทำงานของนายกรัฐมนตรี แต่ละคนแตกต่างกัน
ขณะที่กระแสข่าวการทาบทาม พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. มาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ทราบและไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้เลย ส่วนกระแสการจับผิดและโจมตีเรื่องท่าทีและการแสดงออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าจับผิดเลย หากภาพที่ออกไปแล้วบ่งบอกถึงความไม่พอใจ ก็ขอโทษด้วย แต่ไม่ได้เป็นการไม่พอใจอะไร เพียงแต่พี่น้องผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างมีหลายประเด็น จึงต้องรีบจด ไม่ใช่นั้นจะไม่สามารถตอบคำถามเขาได้ เพียงแต่เขียนไปแล้วหมึกหมด ก็บอกว่าหมึกหมด ผมไม่ได้ขว้าง เพียงแค่ปล่อยลงบนโต๊ะเฉยๆ ก็เข้าใจว่าเป็นบุคคลสาธารณะ การทำอะไรต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะภาพที่ออกไป แม้จะไม่ได้เป็นการสะท้อนความรู้สึกเราเอง แต่คนที่ดูอยู่ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ ก็กราบขอโทษและจะพยายามระมัดระวังตัวมากขึ้น