วันที่ 29 สิงหาคม 2566 ประวัติหลวงพ่อสมัย สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดป่าเกาะแหลม ตำบลบึงปรือ อำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา วัดนี้อยู่รอยต่อสามจังหวัด ชัยภูมิ ลพบุรีและนครราชสีมา ท่านเกิดวันที่ 22 มีนาคม 2506 ชื่อสมัย สุทธิประภา เป็นบุตรคนที่ 7 ในจำนวน 9 คน อายุครบบวช ได้บวชแทนคุณพ่อแม่มีพระครูสุวรรณคูหาบริบาล วัดดงมะไฟ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านชอบเดินธุดงค์ฝึกจิตสมาธิ เรียนเลขยันต์กับหลวงปู่สรวง ฐิตปัญโญ ไปฝึกปฏิบัติกรรมฐานที่วัดมหาธาตุ กทม.ปี 2528 เป็นพระที่ใฝ่รู้ค้นคว้าจากตำรา ออกจากวัดมหาธาตุมุ่งหน้าไปอำเภอตาคลี ช่วงนั้นได้มีโอกาสไปช่วยงานศพหลวงปู่แหวนจนเสร็จ จึงชวนเพื่อนอีก 3 องค์ เดินธุดงค์ไป เมืองแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลกและถึงนครสวรรค์ ไปวัดถ้ำเขาประทุน อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ได้รับเมตตาจากหลวงพ่อบัวรตน เขมจิตฺโตเป็นอาจารย์สอนฝึกสมาธิกรรมฐาน กระทั่งพรรษา 11 – 12 จึงกลับมาที่นครราชสีมา ชาวบ้านขอร้องให้จำพรรษา ที่วัดป่าเกาะแหลม ช่วงปี 2539 ชาวบ้านต่างดีใจได้ร่วมกันพัฒนาวัด
ทั้งนี้ หลวงพ่อสมัย เป็นศิษย์สายตรงหลวงพ่อคูณ หลวงพ่อแช่ม ได้รับสืบทอดวิชาฝังตะกรุด ใต้ท้องแขน จากหลวงพ่อคูณ มาสู่หลวงพ่อแช่ม และส่งต่อวิชาอาคมนี้ ให้หลวงพ่อสมัย ทำให้ลูกศิษย์ 3 สาย หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อสมัย ไหลมาอยู่ที่หลวงพ่อสมัย ข้าราชการ บริษัท ห้างร้าน ได้กราบไหว้หลวงพ่อสมัย ถึงกับให้สมญานาม ว่าเทวดาแห่งเทพารักษ์ เหยียบที่ไหนที่นั่นจะร่ำรวย อยู่เย็นเป็นสุข นี่คือคำบอกเล่าของชาวบ้าน ปัจจุบันมีลูกศิษย์นับหมื่น ทั้งท่านเคยพูดไว้ว่า ตราบใดที่ครูบาอาจารย์ ยังอยู่จะไม่ขอสร้างวัตถุมงคลโดยเด็ดขาด แต่ด้วยบารมี ได้รับความศรัทธาจากศิษย์ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกงและจีน จากวัดร้างเป็นวัดที่มี โบสถ์กลางน้ำ ศาลาใหญ่วิจิตรงดงาม สามมิติ พญานาคตัวใหญ่ ต้อนรับเชิงบันได บนศาลามีภาพวาดที่วิจิตร งดงามสามมิติเป็นภาพพระพุทธเจ้า ถือดอกบัวด้วยมือซ้าย เป็นปริศนาธรรม ความเบิกบานแห่งพระพุทธศาสนา ภาพวาดของสามโลก สวรรค์ มนุษย์และนรก ศาลาปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีทั้งพระสงฆ์ แม่ชี และชาวบ้านั่งวิปัสสนากรรมฐาน ฟังหลวงพ่อสมัยสอนทุกเย็น
นอกจากนี้ หลวงพ่อสมัย สุจิตฺโต ท่านเป็นผู้คิดค้น ยันต์สำเภาเศรษฐี ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดป่าเกาะแหลม ตำบลบึงปรือ อำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีผู้ศรัทธามากมาย ทั่วประเทศ ด้วยความเมตตาของท่าน ที่เป็นเอกลักษณ์ ของท่านที่มีต่อลูกศิษย์ทุกคนที่ได้มากราบขอพรท่าน ลูกศิษย์มากมายที่มาขอความเมตตาสงเคราะห์จากท่าน อย่างไม่ขาด จนเป็นที่กล่าวขาน ในกลุ่มของลูกศิษย์ว่าท่าน คือเทวดาแห่งเทพารักษ์ ด้วยความเมตตาเป็นแบบอย่างให้ลูกศิษย์ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะในทางโลกหรือทางธรรม ถึงแม้วัดป่าเกาะแหลมแห่งนี้จะอยู่ในที่ธุระกันดาน แต่ด้วยบารมีหลวงพ่อสมัย ที่พัฒนา วัดจนเป็นที่รู้จักใน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง 
อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อสมัย  ยังเสียสละเงินปัจจัย ที่ญาติโยมมาร่วมทำบุญนั้น ท่านก็ได้นำเงินปัจจัยเหล่านั้นมาช่วยสงเคราะห์ ผู้ยากไร้ ตามความเหมาะสม หลายครั้งที่ท่านเมตตาชาวบ้านในคราวที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านเดือดร้อน ในชุมชน ที่อยู่ใกล้วัดป่าเกาะแหลม ก็จะได้รับความเมตตา จากท่านอยู่เสมอ ทั้งสิ่งของบริจาค สิ่งของเครื่องใช้ อุปโภคบริโภค สิ่งของที่จำเป็น ท่านมักจะบอกลูกศิษย์ เสมอว่า จิตผู้ให้ ยิ่งใหญ่เสมอ นอกจากคำสอนแล้วหลวงพ่อสมัยท่าน ยังเป็นแบบอย่าง ให้ลูกศิษย์ เห็นเสมอว่า การเป็นผู้ให้นั้นมีความสุข มากกว่าการเป็นผู้รับ ได้ทั้งรอยยิ้ม ได้ทั้งความสุข การเห็นผู้อื่นเป็นสุข เราจะสุขยิ่งกว่า นอกจากนี้ท่านยังได้ใช้สรรพวิชา ที่ได้เรียนมา จากพ่อแม่ครูอาจารย์ มาเมตตาสงเคราะห์ ลูกศิษย์ และเป็นที่รู้จักกันดี ในกลุ่มของลูกศิษย์ คือการสักยันต์ สำเภาเศรษฐี ซึ่งเป็นยันต์ครูที่หลวงพ่อสมัย ท่านผูกยันต์ขึ้นมาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ มีความสวยงาม และมีพุทธคุณ เด่นทางด้านเมตตา โชคลาภ กลับร้ายกลายเป็นดี พลิกดวงชะตา หนุนโชคลาภ วาสนา อีกทั้งแคล้วคลาดปลอดภัย จากการอัญเชิญบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ บารมีแห่งพระพุทธเจ้า พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มาร่วมเป็นหนึ่งเดียว ในยันต์สำเภาเศรษฐี ด้วยอำนาจ แห่งครูเลขยันต์ อักขระที่ได้มาบรรจุ จนกลายเป็นยันต์สำเภาเศรษฐี

นอกจากนี้ที่วัด ยังมีท้าวเวสสุวรรณ ถือกระบองไม้สักทองตายพราย 12 ราศี หนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งโบราณเชื่อว่า มีเทวดาคุ้มครองดูแลโลกมนุษย์ สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพื่อต้องการให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา โดยก็มีประชาชนได้กราบไหว้ขอพร มีโชคลาภกันไปหลายรายแล้ว และมีการบอกเล่าเรื่องราวถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์ท้าวเวสสุวรรณ ที่มีความเมตตาให้โชคลาภ จนมีชื่อเสียงกระฉ่อนอยู่ในขณะนี้