ดาบตำรวจทางหลวงระนองสุดทน! โร่เข้าแจ้งความหนุ่มหัวร้อนโพสต์โซเชียลใช้ถ้อยคำหยาบคายด่าเจ้าหน้าที่
10 ต.ค. 2562, 11:23
วันที่ 10 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ที่ สภ.เมืองระนอง อ.เมือง จ.ระนอง ด.ต.อนุมาทย์ ปัตเมฆ ตำรวจทางหลวงระนอง ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.วีระพนธ์ ชัยอุดม สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระนอง ในข้อหากระทำความผิดเกี่ยวกับ พรบ.คอมพิวเตอร์ กรณีมีผู้ใช้เฟสบุ้ค ชื่อ “ชาย ส..สมชาย” ซึ่งทราบชื่อในภายหลังว่าผู้ใช้เฟสบุ้คดังกล่าว ชื่อ นายชวลิต โมชาวนา อายุ 43 ปี มีอาชีพขับรถโม่ปูนของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง โดยได้โพสข้อความโดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคายด่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระนอง มีใจความว่า “ไอเหี้ยส่องกล้องยุพานลอยบางริ้นทางตำรวจทางหลวงกันส่องแลดอไรมัน555” , “เปรตส่องกล้องยุหน้าปั้มบางจากนะคะย้ายไปยุหน้า 0 วิทยุแล้วนะ” , “เปรตขอส่วนบุญยุศาลาหงาวนะคับจับความเร็ว” และโพสต์อีกหลายข้อความ ลงในเฟสบุ้คกลุ่ม ชื่อ “ระนองมีด่านบอกด้วย” เนื่องจากไม่พอใจในการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงระนอง ที่เริ่มดำเนินการกวดขันและบังคับใช้กฏหมายเกี่ยวกับการขับขี่รถโดยใช้ความเร็วเกินจากที่กฎหมายกำหนดในเขตชุมชน และจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งช่วงถนนเพชรเกษมก่อนถึงเขตชุมชน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางตำรวจทางหลวงระนอง ได้มีการแจ้งประชาสัมพันธ์ไปตามช่องทางต่างๆ ว่าจะเริ่มดำเนินการกวดขันและบังคับใช้กฎหมาย สำหรับผู้ที่ขับขี่รถด้วยความเร็วที่เกินจากกฎหมายกำหนดในเขตชุมชนไปแล้วก็ตาม
ด.ต.อนุมาทย์ กล่าวว่า “ที่ต้องเข้ามาแจ้งความในครั้งนี้ เนื่องจากได้มีประชาชนได้ถ่ายรูปของทางตำรวจทางหลวงของเรา ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ ในลักษณะว่าโพสลงไปใน เฟสบุ้ค ว่าตำรวจทางหลวงหากิน และก็พูดในลักษณะคำที่หยาบคาย เลยต้องมาแจ้งความที่ทางโรงพัก สภ.เมืองระนอง เพื่อให้ผู้ที่โพสลงไปได้รับทราบข้อกล่าวหา และได้มีการลงโทษตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และแม้ว่าข้อหาหมิ่นประมาทจะเป็นข้อหาที่สามารถยอมความได้ แต่คิดว่าในการหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ในขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั่น ก็คงจะต้องดำเนินการไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และคงจะไม่มีการยอมความ เพราะกรณีดังกล่าวถือว่าเป็นความเสียหายต่อองค์กร ตำรวจทางหลวง ของเรา”
ด.ต.อนุมาทย์ กล่าวต่ออีกว่า “ฝากบอกถึงผู้โพสนะครับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีต่างๆ ของการปฏิบัตหน้าที่ของตำรวจท่านสามารถที่จะถ่ายรูปได้ ท่านสามารถดูการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจได้ แต่การที่จะโพสลงไปตามระบบโซเชียลต่างๆ ก็ขอให้ระมัดระวังนิดนึง เพราะว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่เขาก็ทำตามกฎหมาย และมีกฎหมายรองรับอยู่ อีกทั้งกล้องตรวจจับความเร็วเราก็ได้รับมอบจาก กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยถูกต้องตามกฎหมาย และเราก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนท้องถนนในจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และก็เป็นจุดที่เป็นเขตชุมชน ใคร่ขอวิงวอนพี่น้องประชาชน ให้ปฏิบัติตามกฏหมายด้วย เพราะการขับขี่รถด้วยความเร็วเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนปฏิบัติตามกฏหมายด้วยครับ”