"ชมรมคนไม่กลัวอิทธิพล" พร้อมชาวบ้านยื่นหนังสือค้านก่อสร้างโรงผสมปูน หวั่นกระทบวิถีชีวิต-ทำลายสิ่งแวดล้อม
21 ส.ค. 2566, 15:43
นายตภิกฤษ พวงกุหลาบ ประธานชมรมคนไม่กลัวอิทธิพล พร้อมทีมกฎหมายและชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านตะเกียน อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางเข้าพบนายอำเภอเกาะสมุย เพื่อเข้ายื่นหนังสือขอคัดค้านการก่อสร้างโรงผสมปูน ที่จะมีการก่อสร้างในพื้นที่ชุมชน ม.4 บ้านตะเกียน ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยก่อหน้านี้ ชาวบ้านพยายามที่จะคัดค้านการก่อสร้าง แต่พบว่าทางกลุ่มบริษัทเอกชนที่เข้าปลูกสร้างโรงผสมปูน จะไม่รับฟังเสียงสะท้อนจากชาวบ้านในพื้นที่ ทางชมรมฯ จึงต้องเข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบและขอคัดค้านการก่อสร้างของโครงการดังกล่าว เบื้องนายอำเภอเกาะสมุย ได้มอบหมายให้นายวีรวุฒิ ปล้องบรรจง ปลัดอำเภอเกาะสมุย เป็นผู้รับมอบหนังสือ พร้อมกับระบุว่าตนเองได้รับรายงานแล้วว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวและได้ทำรายงานส่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้พิจารณาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ตอนนี้ ซึ่งคาดว่าในเร็วนี้ ทางจังหวัดน่าจะมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
ขณะเดียวกันประธานชมรมฯ พร้อมชาวบ้านยังเดินทางไปยื่นหนังสือทวงถามคืบหน้ากับทางด้านนายสุธรรม สามทอง รองนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย รักษาการนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ซึ่งนายสุธรรม ระบุว่าสำหรับเรื่องนี้ ตนเองได้สั่งระงับการก่อสร้างไปแล้ว และหากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็ต้องดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนดังกล่าว ส่วนเรื่องอำนาจในการยกเลิกการดำเนินโครงการ ตอนนี้ต้องรอให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาด้วยอีกครั้งว่าจะสามารถให้อนุญาตได้หรือไม่ แต่เทศบาลยืนยัน ว่าจะไม่ให้มีการก่อสร้างใดๆทั้งสิ้น หากเรื่องดังกล่าวยังไม่มีคำสั่งจนถึงที่สุด
นายตภิกฤษ ระบุว่าทางชมรมฯและทีมกฎหมาย ได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าคือเรื่องของการออกใบอนุญาตว่า การสร้างโรงผสมปูนชั่วคราว ที่มีขนาดเครื่องจักรไม่เกิน 50 แรงม้า ให้เป็นอำนาจขององค์กรท้องถิ่น เป็นผู้พิจารณาเรื่องของการออกใบอนุญาตได้ โดยไม่ต้องผ่านจังหวัด แต่เพราะเหตุใด จึงมีการนำโครงการดังกล่าวไปพิจารณา ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติในการออกใบอนุญาต ตั้งแต่เรื่องที่บริษัทเอกชนที่จะตั้งโรงผสมปูนได้ทำคู่สัญญาไว้กับสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลตลิ่งงาม ซึ่งอยู่ห่างจากโรงโม่ปูนประมาณ 16 กิโลเมตร ทั้งที่กฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าการสร้างโรงผสมปูนชั่วคราว จะต้องอยู่ห่างจากคู่สัญญาไม่เกิน 1 กิโลเมตร รวมถึงพยายามที่จะอธิบายปัญหา ทางเทศบาล ยินยอมให้บริษัทเอกชนดำเนินการสร้างโรงผสมปูนชั่วคราว จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านในพ้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางด้านสุขภาพ ผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากชาวบ้านยังต้องใช้น้ำจืดที่ได้จากต้นน้ำ มาใช้ในการอุปโภค บริโภคในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตามในวันศุกร์นี้ ทางด้านปลัดเทศบาลนครเกาะสมุย จะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสั่งระงับการก่อสร้างว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง รวมถึงจะรวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริง มาชี้แจงให้กับชาวบ้านได้ทราบถึงความคืบหน้าอีกครั้งว่ามีการดำเนินการไปถึงขั้นตอนใดแล้วบ้าง