วันที่ 17ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ตม.ชุมพร ทำงานเชิงรุก บูรณาการร่วมกับ สภ.ปากน้ำชุมพร ,ส.รน.1กก.6บก.รน.(ชุมพร),และส.ทท.2กก.2บก.ทท.3(ชุมพร) ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนต่างด้าว ป้องกันปัญหาอาชญากรรม ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6 และพ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6 

ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทำงานเชิงรุก เพื่อป้องกันปราบปรามผู้กระทำผิด ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และความผิดกฎหมายอื่น พ.ต.ท.ดุสิต จิตรขุนทด สวญ.ตม.จว.ชุมพร จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.สันติ มณีรัตน์ สว.ตม.จว.ชุมพร และชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร บูรณาการร่วมกับ สภ.ปากน้ำชุมพร,ส.รน.1กก.6บก.รน.(ชุมพร)และส.ทท.2กก.2บก.ทท.3(ชุมพร) ออกสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 

เมื่อเวลา 07.00น. วันเดียวกัน ชุดสืบสวน ตม.ชุมพร พร้อมด้วยชุดบูรณาการปิดล้อมตรวจค้น แหล่งชุมชนคนต่างด้าว บริเวณซอยรุ่งเรือง ม.8 ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร พบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาพักอาศัยห้องเช่าบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางและเอกสารประจำตัว จากการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวแสดงเอกสารขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ไม่พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และไม่พบความผิดตามกฎหมายอื่นๆ

นอกจากนี้ พบเจ้าบ้านไม่แจ้งคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าบ้านรับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงาน ภายใน 24 ชม. ตาม ม.38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522” จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ตามคดีเปรียบเทียบที่ 137-139/2566 ลงวันที่ 17ส.ค.66 โดยเจ้าบ้านยินยอมเปรียบเทียบปรับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์การแจ้งที่พักอาศัยตาม ม.38 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป