"สื่อประจวบฯ" ยื่นหนังสือรองผู้ว่าฯ เชิญหน่วยงานเปิดเวทีดีเบตไลฟ์สด ถกปัญหาเสาไฟ
9 ส.ค. 2566, 15:30
วันที่ 9 สิงหาคม 66 จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับตัวแทนสื่อมวลชนเข้าพบนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หัวหน้าสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือลงนามโดยประธานชมรมสื่อโซนใต้ นายกสมาคมวิทยุและโทรทัศน์ท้องถิ่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขอให้จังหวัดเชิญหัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานปกครองท้องถิ่น หัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ และตัวแทนภาคประชาชาชนที่ตั้งข้อสังเกต มีความเห็นว่าสื่อมวลชนจะขัดขวางการใช้งบประมาณเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นโดยหน่วยงานรัฐ ร่วมเปิดเวทีสาธารณะเพื่อดีเบตกับตัวแทนสื่อมวลชน
จ่าอากาศเอกเสกสรรค์ กล่าวว่า การเปิดเวทีดังกล่าวจะให้ประชาชนเจ้าของภาษีที่ภาครัฐนำไปใช้จ่าย สามารถประเมินได้ว่าที่ผ่านมามีความคุ้มค่า มีความเหมาะสม สามารถใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาวหรือไม่ โดยมีการสอบถามกรณีเสาไฟประติมากรรมสับปะรดที่ติดตั้งบนสันเขื่อนชายหาดประจวบฯในเขตเทศบาลเมืองฯสูญหายจำนวนมาก บางส่วนมีการนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าของทรัพย์สิน นอกจากนั้นจะสอบถามเหตุใดใช้เวลานานกว่า 5 ปี จึงมีการถ่ายโอนทรัพย์สินจากกรมโยธาธิการ ซึ่งใช้งบ 144.7 ล้านบาท ทำโครงการป้องกันน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯและเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) เกาะหลัก
“ สำหรับกรณีเสาไฟฟ้ายังไม่มีหน่วยงานใด ยอมรับเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หลังจากโยธาฯอ้างว่าส่งมอบให้เทศบาลแล้วนานกว่า 9 ปี แต่เทศบาลแจ้งว่าการส่งมอบเป็นโมฆะโดยไม่ได้นำไปผ่านความเห็นจากสภาเทศบาล ขณะที่โครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการทำสัญญาก่อสร้างนอกเขตเทศบาล บางจุดมีการทำโครงการในที่ดินเอกชน มีการทำท่อรับน้ำจากหน้าที่ดินโฉนดของเอกชน ไม่มีการทำท่อลอดผ่านรถไฟทางคู่ เพื่อนำน้ำจากลำห้วยร่องประดู่ไประบายลงทะเลที่ปากคลองบางนางรม ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานรัฐดำเนินการ เพื่อให้ชี้แจงตอบข้อซักถามให้เกิดความโปร่งใส เพื่อประโยชน์และความคุ้มค่าจากการใช้ภาษีของประชาชน ” จ่าอากาศเอกเสกสรรค์กล่าว
นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมข้อมูล ข้อเท็จจริง เพื่อชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบในลักษณะของการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น แม้ว่าบางโครงการจะเกิดขึ้นในอดีตนานหลายปี แต่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในปัจจุบันสามารถสืบค้นข้อมูลในระบบได้ นอกจากนั้นสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดสามารถจะพิจารณาเอกสารที่มีการโต้ตอบ ระหว่างโยธาจังหวัดกับเทศบาล ว่าเป็นไปตามหนังสือซักซ้อมในการถ่ายโอนทรัพย์สินจากระบบราชการส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคตามที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดไว้ตามหลักที่ถูกต้องหรือไม่ ขณะเดียวกันหน่วยงานที่จะถ่ายโอนก็ควรชี้แจงเหตุผลได้ว่าเหตุใดจึงไม่ดำเนินการหลังจากโครงการเสร็จสิ้นตั้งแต่ช่วงแรก
นายพิสิษฐ์ รื่นเกษม ประธานชมรมสื่อโซนใต้ นายกสมาคมวิทยุและโทรทัศน์ท้องถิ่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากตัวแทนสื่อยื่นหนังสือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากหน่วยงานใดขัดข้อง โปรดแจ้งเหตุผลให้ทราบภายใน 7 วัน เพื่อสื่อจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบต่อไป เนื่องจากการทำหน้าที่ของสื่อต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ให้ประชาชนและผู้สนใจได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนหากมีการดีเบตจะขอให้มีการไลฟ์สดจากโซเชียลมีเดีย จากแนวทางในการใช้นโยบายปราบโกงของรัฐบาล หน่วยงานรัฐควรใช้งบประมาณ และทำหน้าที่ด้วยความโปร่งใส เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามหลักธรรมาภิบาล สำหรับการเปิดเวทีดังกล่าวถือว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้ทุกหน่วยงานโชว์ความโปร่งใสในการทำหน้าที่ และไม่มีปัญหาถูกยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ตรวจสอบในภายหลัง