"ชาติไทยพัฒนา" ย้ำจุดยืนโหวตนายกฯ ให้ "เพื่อไทย" แต่ต้องไม่ร่วมพรรคแก้ ม.112
23 ก.ค. 2566, 15:43
วันนี้ ( 23 ก.ค.66 ) ที่พรรคเพื่อไทย การแถลงข่าวเดินหน้ารัฐบาลประชาธิปไตย แก้ปัญหาให้ประชาชน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พรรคเพื่อไทย และผู้ร่วมแถลงจากพรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค และนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค เข้าร่วม โดยจะหารือในประเด็นหาทางแก้ไขวิกฤต และหาทางออกประเทศร่วมกัน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ภายหลังพรรคก้าวไกลส่งมอบภารกิจ ให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล ที่ทำหน้าที่เสนอผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งภายในที่ประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่ดำเนินการร่วมกันมาตลอด ได้มีมติร่วมกันให้การกำหนดแนวทางให้พรรคเพื่อไทยในการดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนในรัฐสภา โดยแนวทางที่ 1 ภายใต้ 312 ที่นั่ง 8 พรรค ไปพูดคุยกับทางวุฒิสภา ซึ่งเราก็ได้แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการเรื่องนี้แล้ว และแนวทางที่ 2 เป็นการพูดคุยกับทางพรรคการเมืองอื่นๆ (ส.ส.) ซึ่งแนวทางนี้ทางพรรคเพื่อไทยเห็นว่าเป็นแนวทางที่สำคัญ ต้องทำในนามพรรคการเมือง จึงได้เชิญพรรคการเมืองต่างๆที่มีอยู่ในสภา เข้ามาพูดคุยเพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆได้แสดงความคิดความเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ 8 พรรคร่วม ว่ากรณีที่เราจะได้รับเสียงสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ ร่วมรัฐบาล ว่าแต่ละพรรคมีแนวทางอย่างไร
วันนี้ต้องขอบคุณพรรคชาติไทยพัฒนาที่นำโดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ที่ให้เกียรติกับพรรคเพื่อไทยได้มาพบปะพูดคุยกัน ยืนยันไม่ใช่เป็นการเชิญมาเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่เป็นการหาแนวทางที่เราจะจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร
นายวราวุฒิ กล่าวว่า รายละเอียดการพูดคุยกันในครั้งนี้ เป็นการย้ำจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนาที่เคยพูดไว้ตั้งแต่การเลือกตั้ง แม้กระทั่งตั้งแต่มีการก่อกั้งพรรคชาติไทยพัฒนา เรียนว่าการทำงานร่วมกันนั้นแนวทางแนวนโยบายจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเราได้เน้นย้ำจุดยืนของพรรคคือการทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของประชาชนชาวไทย ดังนี้ประเด็นสำคัญที่จะพูดถึงคือ การที่เราไม่แตะต้อง ไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก กฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่พรรคชาติไทยพัฒนายึดไว้ ตลอดจนแนวทางทัศนคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นหากว่าแนวทางของพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่มีแนวคิดเช่นนี้เหมือนพรรคชาติไทยพัฒนา เราสามารถพูดคุยทำงานร่วมกันได้ แต่หากมีพรรคการเมืองใดมีแนวทางที่แตกต่างไปจากนี้หรือคิดเห็นไม่ตรงกัน เราก็จะแยกย้ายกันทำงาน
นายวราวุฒิ กล่าวอีกว่า ต้องเรียนอย่างที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้กล่าวไว้ว่า วันนี้เราไม่ได้พูดถึงการจัดตั้งรัฐบาล แต่หากว่าพรรคเพื่อไทยที่มีแนวทางคล้ายกันกับพรรคชาติไทยพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องสถาบัน หรือ ม.112 นั้น ถ้ามีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนาเรายินดีสนับสนุน แต่การทำงานของพรรคเพื่อไทยนั้นจะต้องไม่มีพรรคการเมืองใดที่มีแนวคิดแตกแยกออกไปจากที่พวกเราคิดอยู่ หากมีพรรคการเมืองใดที่มีแนวคิดแตกแยกออกไปนั้นก็คงจะแยกย้ายกันทำงาน อันนี้เป็นสาระสำคัญที่ได้พูดคุยกันในวันนี้