เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อาสากู้ภัย" ช้ำ ออกโพสต์พ้อ ถูกตร.จับ เพราะช่วยจับงูให้ชาวบ้าน


12 มิ.ย. 2562, 09:06



"อาสากู้ภัย" ช้ำ ออกโพสต์พ้อ ถูกตร.จับ เพราะช่วยจับงูให้ชาวบ้าน




กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกแชร์ส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลาย ต่อโพสต์ที่ถูกเผยแพร่จากผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อว่า Nick Chomngam เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ได้ออกมาเผยเรื่องราวเตือนใจอาสาสมัครกู้ภัย ที่ทำงานเสียสละเพื่อสังคม แล้วกลับต้องมาถูกจับ โดยระบุว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ตนตัดสินใจเขียนโพสต์นี้ขึ้นมา เพราะความรู้สึกหดหู่ที่เหล่าผู้เสียสละเพื่อสังคม จะต้องมารับชะตากรรมเช่นนี้

 

เมื่อน้องอั๋นเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องถูกตำรวจจับ ในขณะที่กำลังจะนำงูไปปล่อย เพราะงูบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกเลื้อยคลาน ในพรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535 ก่อนหน้านี้น้องอั๋น ได้ถูกเชิญให้ไปร่วมสาธิตให้ความรู้เรื่องงูกับประชาชน ซึ่งงูที่ใช้อบรมคืองูที่ประชาชนแจ้งให้ไปจับ

 

มาถึงตรงนี้คนที่ทำหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยต้องทราบเอาไว้ ว่างูที่เราจับนั้น มีงูที่เป็นสัตว์คุ้มครองอยู่ 14 ชนิด และหากจับได้ เราต้องไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะในการจับสัตว์คุ้มครอง ต้องถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯเท่านั้น



จุดพีคอยู่ตรงที่ ทางทีมก็พยายามไปลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งพอทางน้องไป ทางอุทยานฯก็ให้ไปแจ้งกับสถานีตำรวจอีก แต่ไม่ทราบเพราะอะไร ทางตำรวจก็ไม่ได้ลงบันทึกให้

ผลสุดท้ายในขณะที่น้องอั๋นกำลังเดินทางเพื่อนำงูไปปล่อย ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ น้องพยายามอธิบาย แต่ทางตำรวจก็ไม่ฟังคำอธิบาย แม้แต่พยายามแสดงหลักฐาน ทางตำรวจก็ไม่ดูทั้งนั้น แม้แต่ผมพยายามที่จะโทรไปอธิบายแต่ทางตำรวจก็ไม่รับฟังเหตุผลใดใด
 

ตอนนี้น้องถูกควบคุมตัวไว้ที่สภอ.บ้านหมอ สระบุรี ยังไม่รู้ว่าจะโดนข้อหาอะไรบ้าง เบื้องต้นเห็นใจทั้งคู่ ทั้งน้องที่เสียสละเพื่อสังคม และตำรวจที่ต้องทำตามหน้าที่ แต่อยากให้มีดุลพินิจยอมฟังเหตุผล และดูหลักฐานในการประกอบการตัดสินใจด้วย เพราะไม่ว่ากฏหมายจะเขียนไว้อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าที่สำคัญที่สุดคือเจตนา ผู้ใช้ต้องมีดุลยพินิจและมีคุณธรรม
 

เพราะหากเป็นแบบนี้ กู้ภัยจะกระทำความผิดทั่วทั้งประเทศ ทั้งที่เขาเสียสละช่วยเหลือสังคมมาตลอด และฝากถึงกรมอุทยานฯ ว่าขั้นตอนในการผ่อนผันให้กู้ภัยช่วยจับงูที่เป็นสัตว์คุ้มครอง ในทางปฏิบัติมันทำยากมาก

เพราะนอกจากกู้ภัยต้องไปช่วยจับงูให้แล้ว ยังต้องวิ่งไปลงบันทึกประจำวันอีก มันทำยากเพราะเสียเวลาเสียค่าน้ำมันเขา เลยแทบจะไม่มีใครทำกัน

แล้วในกรณีของน้องอั๋น ทีมงานก็พยายามทำแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ลงบันทึกให้ จนถูกจับ และมีแนวโน้มจะถูกดำเนินคดี ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้ความรู้สึกของตนแย่มาก ที่ผู้เสียสละ ต้องมารับเคราะห์แบบนี้ 

***ปล. สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ตนได้อธิบายไปแล้วว่าเห็นใจตำรวจเช่นกัน เพราะนั่นคือหน้าที่ของเขา แต่อยากให้รับฟังคำชี้แจงและหลักฐาน และเจตนาด้วย ไม่ใช่ใส่อารมณ์มาแล้ววางสายใส่ จนสื่อสารกันไม่ได้


กรณีที่เอางูให้ความรู้ น้องไปให้ความรู้กับเยาวชน ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองให้เกียรติรับชมอยู่ด้วย ไม่ได้โชว์เพื่อการค้าการทำกำไรแต่อย่างไร

ประเด็นล่าสุดคือการหลบด่าน เพราะน้องไม่ใส่หมวกกันน็อค ซึ่งก็มีความชอบธรรมพอให้สงสัย และหากพยานหลักฐานไม่ได้เป็นการค้า ก็ควรเอาผิดกรณีนั้นไป ไม่ใช่มาตีคลุมว่าน้องคือผู้ร้าย 


นอกจากนี้ ยังเผยต่ออีกว่า ตนมีเพื่อนที่เป็นตำรวจดีๆในเฟซบุ๊กก็เยอะ ภายนอกก็เยอะ มีผู้ใหญ่ที่รู้จักเป็นตำรวจก็หลายท่าน ยืนยันว่าเคารพ และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของท่านเหล่านั้น เพียงแต่กรณีนี้ ต้องการสื่อถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ต้องเสียสละ และเสี่ยงภัยเข้าจับงู แล้วสุดท้ายถูกดำเนินการตามกฏหมาย ว่าต่อไปจะมีอะไรมารองรับพวกเขาเหล่านี้ไหม ถ้าจับแล้วผิดกฎหมาย แล้วต่อไปใครจะจับ

ส่วนกรณีเคสนี้ ทราบในภายหลังว่าน้องมีพฤติกรรมหลบด่านตำรวจ ซึ่งพอโทรไปสอบถามทราบว่าไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค ซึ่งเป็นเหตุอันควรให้ต้องสงสัย และถูกเชิญตัวไปโรงพักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจเจ้าหน้าที่ และควรดำเนินการตามขั้นตอนไป

ตนรับสายทีมงานตอนสายๆ และขอให้ช่วยโทรไปอธิบาย ซึ่งในการโทรไปคุยนั้น ตนพยายามอธิบายถึงเหตุผลว่า ปัจจุบันทางกรมอุทยานฯ ก็ผ่อนผันให้กู้ภัยบรรเทาสาธารณะภัยจับงูได้ โดยมีขั้นตอนมารองรับ และในกรณีนี้ น้องเพิ่งไปช่วยอาสาบรรยายให้ความรู้กับเยาวชนมา อยากให้ขอพิจารณาหลักฐานที่น้องนำมาให้ด้วย

ปลายสายเสียงดังมาว่าให้ส่งหนังสือที่กรมอุทยานฯผ่อนผันมา ซึ่งกรณีนี้มันเป็นกรณีที่น้องพยายามทำตามขั้นตอน แต่ทางภาครัฐไม่ได้ลงบันทึกประจำวันให้ แต่ให้ไปติดต่อทรัพยากร ติดต่อไปทรัพยากรก็ให้ไปติดต่ออุทยาน ซึ่งอุทยานก็บอกให้ไปลงบันทึกที่โรงพัก แล้วทางโรงพักก็ไม่ได้ทำให้ แล้วน้องจะมีเอกสารได้อย่างไร? คุยกันสักพักปลายสายก็กดวางสาย ไม่ยอมคุยไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้น

ด้วยความสัตย์จริง ในเรื่องการสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า ตัวผมเองไม่เคยทำการค้าขายสัตว์ที่ติดหรือไมติดพรบ. และไม่เลี้ยงสัตว์ป่า เพื่อต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนอื่นๆ

ด้วยความสัตย์จริง เราพยายามประณีประนอมด้วยการพูดคุย อธิบาย และพยายามให้ทางตำรวจพิจารณา หลักฐานจากภาพถ่าย และเอกสารกำหนดการ เพียงแต่ได้รับตอบรับที่ไม่ดี โดยการไม่ฟัง ไม่ดู และวางสายไป

ภายหลังน้องบอกว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน ให้ความช่วยเหลือ และเห็นใจ ตนต้องขออภัยที่การโพสต์อาจทำให้หลายท่านได้รับผลกระทบ แต่มันจำเป็นที่จะต้องให้สังคมรู้ปัญหาเหล่านี้ และช่วยกันแก้ไข

หลังจากเป็นกระแสข่าวไป น้องถูกปล่อยตัว และไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาใดใด ซึ่งประเด็นน้องคงจะจบลงหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่ไม่อยากให้จบคือมาตรการที่เป็นจริงสำหรับรองรับการช่วยเหลือสังคมของอาสาสมัครเหล่านี้ ไม่ให้คนดีต้องได้รับผลที่ไม่ควรได้รับ สำหรับคนผิดก็ควรดำเนินการตามกฏหมายไป

ตนไม่เคยช่วยเหลือคนที่กระทำผิดกฏหมาย ผิดคือว่าไปตามกฏหมาย แต่อะไรที่ดูไม่ถูกต้อง ก็อยากให้มันถูกต้องตามสิ่งที่ควรจะเป็นเท่านั้นเองครับ






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.