วันที่ 7 ก.ค. 66  พ.ต.ท.สุภกิจ แก้วบาง พนักงานสอบสวนสภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามี หญิงสาวผูกคอเสียชีวิตภายในห้องนอน ที่เกิดเหตุบริเวณภายในตัวเมืองสระบุรี  จากนั้นจึงแจ้งไปยังแพทย์เวร รพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระบุรี ร่วมตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุบริเวณ ถ.เทศบาล 2 ซ.5/1  เป็นบ้านกะต๊อบที่ปลูกขึ้นบริเวณพื้นที่ว่างข้างทาง ใต้ต้นก้ามปูขนาดใหญ่ ไม่มีเลขที่ ภายในห้องพักพบ ผู้เสียชีวิต เป็นหญิง อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า มีเชือกไนล่อนสีเขียวผูกอยู่ที่บริเวณคอ ปลายอีกฝั่งผูกอยู่กับขื่อหลังคาบ้าน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสาว กุลินา เสตพันธ์ อายุ 45 ปี สภาพศพใบหน้าและลำคอมีรอยเขียวคล้ำ ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ใดๆทั้งสิ้น คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรโรงพยาบาลสระบุรี ทำการชันสูตรศพและส่งต่อไปยังสถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากตายผิดธรรมชาติ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า  นาย ฉลอง และ นางสาว กุลินา 2สามีภรรยา มีอาชีพเก็บของเก่าขาย  ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง ประกอบกับภรรยาเป็นคนพิการขาข้างขวา เดินกระเผลกๆ  จนมาเมื่อวานนี้ได้กลับจากการเก็บของเก่าขาย และมีปากเสียงกันเรื่องค่าไฟฟ้าที่โดนตัดไปแล้ว 3-4 วัน  ทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ และลามทะเลาะไปถึงเรื่องการหึงหวง จึงทำให้มีการทะเลาะเบาะแว้ง จนสามีทนไม่ไหวได้ออกจากบ้านไปนอนที่บ้านญาติ  แต่ภรรยาไม่ให้ไป ถ้าไปจะผูกคอตาย แต่สามีไม่เชื่อ เพราะภรรยาพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว เลยไม่เชื่อจึงออกไป พอช่วงเช้าสามีกลับมาบ้าน ก็เห็นภรรยาผูกคอตายแล้ว ได้ร้องไห้โอ  และไปบอกให้ป้าของตนที่อยู่บ้านตรงข้ามกันทราบ จากนั้นจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบในที่เกิดเหตุดังกล่าว

สอบถามนาง ยุพิน สยุมพร (ป้าของสามีผู้ตาย) เล่าว่า ทั้ง2คนชอบมีปากเสียงทะเลาะกันบ้างเล็กๆน้อยๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องทั่วๆไป  เขาอยู่ด้วยกัน 2 คน ไม่มีลูก ทำอาชีพเก็บของเก่า  เมื่อวานที่เขาทะเลาะกันตนเองไม่ได้ยินเสียงเพราะว่านอนหลับแล้ว ซึ่งเขาทะเลาะกันช่วงประมาณ 1-2 ทุ่ม  หลังจากนั้นก็ไม่เจอตัวผู้ตายอีกเลย  ส่วนหลานชายทุกทีจะไม่เคยออกบ้าน เวลากลางคืน ไม่ว่าจะทะเลาะกันหรือไม่ทะเลาะ เขาก็จะเก็บตัวอยู่ในบ้าน  มาวันนี้ช่วงเช้าตนเองกำลังจะจัดยาให้พี่สาวกิน เนื่องจากพี่สาวมีโรคเส้นเลือดตีบในสมอง ได้เห็นหลานชายเดินลงไปข้างล่าง สักพักพนึ่งก็เดินกลับมาปล่อยโฮร้องไห้ออกมา ตนเองจึงได้ถามหลานชายว่าเป็นอะไร  หลานก็ตอบว่า ไอปลาผูกคอตายแล้ว ตนจึงได้เดินไปดู แล้วเอามือลูบหัวพร้อมพูดว่า ทำไมทำอย่างนี้  และได้จับตัวดู ซึ่งตัวเขาก็แข็งไปหมดแล้ว หน้าตาเขียวไปหมด ผู้ตายน่าจะผูกคอตายช่วง 3-4 ทุ่ม ตนเองรู้สึกเสียใจเพราะเคยเห็นกันทุกวัน และในทุกๆวันช่วงเวลาเที่ยง เขาก็จะมาเก็บถ้วยจานไปล้างให้

ด้านสามีผู้ตาย นาย ฉลอง แผลงศรี (สามี) อายุ 28 ปี  เล่าว่า ตนและแฟนมีอาชีพเก็บของเก่า อยู่กันมา 2 ปี ไม่มีลูก  เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุ ตนกับแฟนได้ทะเลาะกัน เนื่องจากผู้ตายมีอาการหึงหวงตน ซึ่งตนก็รำคาญจึงได้ออกไปนอนบ้านญาติ ปล่อยให้แฟนนอนอยู่คนเดียว  พอเช้ามาตนเองได้เดินเช้าไปดูและเขย่าตัวแฟน จึงได้รู้ว่าแฟนผูกคอตาย ตนกับแฟนทะเลาะกันบ่อย สาเหตุส่วนมากมาจากอาการหึงหวง  แต่เมื่อคืนทะเลาะกันหนัก ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร มีแต่เขาพูดอยู่ฝ่ายเดียว และไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน ส่วนสาเหตุที่เขาผูกคอตาย เพราะก่อนที่ตนเองจะเดินออกจากบอก แฟนได้พูดขู่ไว้ว่า  ถ้ามึงไป กูจะผูกคอตาย แต่ตนก็ไม่เชื่อ เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาก็จะพูดขู่แบบนี้ แต่ก็ไม่เคยทำสักครั้ง แต่มารอบนี้เขาทำ  ตนเองรู้สึกเสียใจมาก