เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 6 ก.ค.66 พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากญาติ ด.ญ.สวย (นามสมมุติ ) อายุ 13 ปี ว่า ด.ญ.สวย ถูกนายอาร์ม (สงวนนามสกุล) อายุ 15ปี แซ็ทโซเซียลล่อลวง ด.ญ.สวย ออกจากบ้านอ้างว่า พานั่งรถเที่ยว แต่กลับพาไปข่มขืนกระทำชำเรา แล้วถ่ายภาพภาพเปลือยกายล่อนจ้อนหลังกระทำชำเราไว้ข่มขู่ ด.ญ.สวย ให้ออกมาพบอีก หากไม่มาพบจะนำภาพถ่ายเปลือยกาย ด.ญ.สวย ประจานโซเซียล ทำให้ ด.ญ.สวย เกิดความเครียดอย่างหนักถึงขั้นคิดฆ่าตัวตายด้วยการกินสบู่เหลว และยาแก้ปวด 30 เม็ด หวังฆ่าตัวตาย โชคดีที่พ่อแม่และญาติมาเจอรีบนำส่งโรงพยาบาลท่าศาลา แพทย์ช่วยเหลือล้างท้อง ด.ญ.สวย จนปลอดภัยรอดหวุดหวิด แต่ ด.ญ.สวย ยังมีอาการซึมเศร้า ขอให้ตำรวจ จับกุมตัวนายอาร์ม ผู้ต้องหา มาดำเนินคดี

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา สั่งการ พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) พร้อมด้วยกำลังตำรวจสืบสวน เดินทางไปจับกุมนายอาร์ม อายุ15 ปี ผู้ต้องหา ขณะกบดานในขนำหลังบ้าน ท้องที่หมู่ 1 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงคุมตัวนายอาร์ม สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.สวย จริง แต่เป็นการคบหาแบบแฟนกันเท่านั้นไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด ส่วนภาพเปลือยกาย ด.ญ.สวย ยอมรับว่า ถ่ายจริง และส่งให้ฝ่ายหญิงดูจริง แต่ไม่ได้ข่มขู่ เพื่อประจานตามที่ถูกกล่าวหา ตำรวจจึงดำเนินคดีข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีและกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ก่อนส่งตัวนายอาร์ม ไปสถานพินิจเด็กและเยาวชนนครศรีธรรมราช เพื่อควบคุมตัวต่อไป

สอบถามนางแดง (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี แม่ ด.ญ.สวย เผยว่า ตนต้องขอขอบคุณ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) ที่ทำคดีอย่างรวดเร็วสามารถจับกุมผู้ต้องหา มาดำเนินคดี ลูกสาวอายุยังน้อย แต่ถูกนายอาร์ม กระทำอย่างไม่น่าให้อภัย ปกติลูกสาวเป็นคนร่าเริง แต่กลับเป็นคนป่วยโรคซึมเศร้า และคิดฆ่าตัวตาย โชคดีแพทย์ช่วยเหลือล้างท้องได้ทัน ทุกวันนี้ลูกสาวยังมีอาการซึมเศร้า ตนและครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามระหว่างสอบสวนปากคำนางแดง อยู่นั้น ด.ญ.สวย ซึ่งมีอาการหายเป็นปกติแล้วโผเข้ามากอดตำรวจ สภ.ท่าศาลา เพื่อขอบคุณที่ช่วยเหลือตน และจับกุมนายอาร์ม ดำเนินคดี 

ขณะที่นางตา ( นามสมมุติ) อายุ 56 ปี แม่ของนายอาร์ม ผู้ก่อเหตุ กล่าวยอมรับว่า เครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือ อาศัยอยู่กับย่าช่วยทำงานหาเงิน ส่วนตนเองและสามีทำงานต่างอำเภอ หลังเกิดเหตุสอบถามลูกชาย บอกว่าคบหากับเด็กหญิงคนดังกล่าว และยืนยันว่าไม่ได้ข่มขู่หรือบังคับ ตอนนี้เดือนร้อนเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปประกันลูกชาย