วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ท.ศุภกิจ พนัชนาชี สว.สอบสวน สภ.ปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวตาย บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 10/3 หมู่ที่ 10 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อนุรักษ์ ประดับมุข ผกก.สภ.ปะทิว ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปะทิว และหน่วยกู้ภัยสาลชล เขตสะพลี

ในที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนสายสะพลี-โรงโม่ โดยเจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณหน้าบ้าน พบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38  ตกอยู่ในก่อหญ้า 1 กระบอก ใกล้กันพบกองเลือด นองพื้นดิน หน้ารถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สี่ประตูสีดำ หมายเลขทะเบียน  6กท 874 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่หน้ารั้ว ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ คือนายไตรรงค์ คล้ายอักษร อายุ 59 ปี มีนายวิจิตร  สุทธิกร น้องเขยและ น.ส.พรรณี คล้ายอักษร น้องสาว ได้นำตัวไปส่ง รพ.ท่าแซะ และเสียชีวิตระหว่างทาง

จากการตรวจสอบอาวุธปืนพกสั้น เป็นลูกโม่ ขนาด 6 นัด ถูกยิงไปแล้ว 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเปิดประตูรถด้านขวาพบซองปืน จำนวน 1 ซอง โดยมีซองเอกสารสีน้ำตาลวางปิดไว้ และยังพบสมุดจด 1 เล่ม ภายในเล่มบันทึกรายการใช้จ่ายเงินในแต่ละวันไปจนถึงแต่ละเดือน ถูกจดไว้เป็นระเบียบอาทิ รายการที่ต้องผ่อนชำระหนี้ ธกส.กว่า 1 ล้านบาท รายการชำระเงินผ่อนค่างวดรถ 4 แสนเศษ และเงินที่ยืมมาจากแม่ กว่า 2 แสนบาท เงินที่ต้องจ่ายรายเดือนบัตรเครดิต อีกกว่า 1 แสนบาท เป็นต้น

สอบถาม น.ส.พิศมัย  คล้ายอักษร อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่10/5 ม.10 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร  น้องสาว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับนายวิจิตร สามี อยู่ที่บ้านซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 70 เมตร และกำลังเตรียมจะไปตลาดนัด กับนางประมวล คล้ายอักษร อายุ 84 ปี ผู้เป็นแม่ และ เพื่อนบ้าน อีก 2 คนนั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟหน้าบ้าน แต่ระหว่างเดินจะไปแต่งตัวในบ้านไม่ทันเสร็จ ก็ได้ยินดังปัง 1 ครั้งคล้ายเสียงปืน สักพัก น.ส.พรรณี น้องสาว วิ่งหน้าตื่นมาที่บ้าน พร้อมตะโกนว่า พี่ต๋อย(ไตรรงค์)ยิงตัวตาย ตนเองพร้อมสามี จึงวิ่งไปที่เกิดเหตุก็พบว่าพี่ชายนอนจมกองเลือด หายใจโรยริน ที่ศีรษะบริเวณขมับขวามีเลือดไหลนอง จึงช่วยกันอุ้มขึ้นรถแล้วพาไปที่ รพ.ท่าแซะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

น.ส.พิศมัย กล่าวว่า พี่ชายเป็นโรคเครียด หลังจากที่หย่าร้างกับภรรยาไปเมื่อ 20 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน ทำงานอยู่ กรุงเทพทั้งคู่ พี่ชาย จะขับรถมากินกาแฟกับใบกระท่อมที่บ้านทุกวัน แต่เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาพี่ชายหายไป จนกระทั่งมาวันนี้ ตนเห็นพี่ชาย ขับรถยนต์มา ก็ไม่คิดอะไร จนกระทั่งมารู้อีกที พี่ชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองแล้ว ส่วนสาเหตุที่พี่ชายตัดสินใจปลิดชีพตนเอง ก็น่าจะมาจากปัญหาส่วนตัว ซึ่งพี่ชายไม่เคยเล่าให้ใครฟัง มีเพียงบ่นว่าอยากตาย โทรไปหาลูกก็ไม่รับสาย หากจะรับสายก็จะขอเงินอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นไปได้เพราะความเครียดบวกกับความน้อยใจ

ด้านนางประมวล ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ลูกชายเคยทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง แต่หลังจากที่หย่ากับภรรยา ลูกชายเปลี่ยนไปมาก เครียดมากจนต้องนำส่งรพ.มาแล้ว มียามีหลักฐานการรักษา และระยะหลังๆลูกชายมักจะมาพูดว่าอยากตายภาระหนี้สิน และปัญหาเรื่องลูกที่แทบไม่เคยมาเยี่ยมพ่อเลย ซึ่งตนก็ปลอบใจลูกว่า ขอให้อยู่เพื่อแม่ หนี้สินที่มีแม่จะช่วย ซึ่งตนก็ให้แทบทุกเดือน แต่ไม่เคยคิดจะเอาคืนเพราะลูกก็คือลูก แต่ลูกชายนั้น เป็นคนนิ่งไม่ค่อยพูดจากับใคร จะเก็บไว้ในใจคนเดียว และเมื่อเช้าก็ได้มาขอยืมเงิน จำนวน 14,000 บาทเพื่อจะนำไปคืนเจ้าหนี้ ที่นายไตรรงค์ ลูกชายไปยืมมา เพื่อส่งไปให้ลูกที่กรุงเทพ แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้หรือไม่ที่ทำให้ลูกชาย จึงตัดสินใจ ขับรถมาจากบ้านตนเอง ซึ่งห่างไป 3 กม.พอมาถึงก็จอดรถแล้วเปิดประตู เดินไปหน้ารถ แล้วยิงตัวตาย ต่อหน้าแม่ที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ร้านกาแฟ

เบื้องต้น ทางญาติ ไม่ติดใจในการเสียชีวิตในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานไว้ก่อนมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป