วันที่ 24 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พงษ์พัฒน์ เดชะชัย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งจากพลดีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ภายในบ้านเลขที่ 87/1 บ้านดงตาจันทร์ หมู่ 11 ต.ไตรรึงษ์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ระหว่างเกิดเหตุชาวบ้านช่วยกันนำน้ำมาช่วยกันดับไฟจนสงบลง

จุดเกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านของนางลำเจียก สิตระศักดิ์ อายุ 64 ปี อาชีพทำไร่อาศัยเพียงลำพัง ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นพื้นที่ตั้งของตู้ใส่เสื้อผ้าอลูมิเนียม และตู้ใส่ของลายไม้แกะสลักซึ่งบริเวณที่เพลิงไหม้นั้นเกิดขึ้นในจุดที่เป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของเท่านั้น ในส่วนอื่นๆของในบริเวณบ้านไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดจุดเพลิงไหม้เป็นตู้ใส่เสื้อผ้าอลูมิเนียม และตู้ไม้แกะสลักพร้อมมีข้าวของบางส่วนได้รับความเสียหาย และพบธนบัตรถูกไฟไหม้บางส่วนวางอยู่ในถาด 2 ปึก ลักษณะถูกไฟไหม้ไปบางส่วนวางในชั้นของตู้เสื้อผ้า

เจ้าของบ้าน เล่าว่า ได้นำเอาเงินจำนวน 5 แสนบาทเก็บไว้ในจุดนี้ โดยเงิน 2 แสนเก็บไว้ในชั้นของตู้อลูมิมิเนียม และอีก 3 แสนเก็บไว้ในตู้ไม้แกะสลักซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกันถูกเพลิงไหม้ไปจนหมด ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่ได้จากการขายที่จำนวนกว่า 8 ไร่ และนอกจากนี้ยังมีสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาทที่คาดว่าจะอยู่ในกองเพลิงอีก 1 เส้น

ต่อมาตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.กำแพงเพชร เดินทางมาตรวจสอบและค้นหาทรัพย์สินที่พอจะมีหลงเหลืออยู่ ก่อนพบมีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมจี้พระสภาพกรอบละลายเสียหายแต่ทองไม่ได้รับความเสียหายเจ้าหน้าที่จึงได้มอบไว้ให้กับเจ้าของเก็บรักษาไว้ และแนะนำให้ผู้เสียหายเก็บเศษธนบัตร 2 แสนบาท ที่ถูกเพลิงไหม้ในครั้งนี้นำไปให้กับทางธนาคารได้ตรวจสอบว่าสภาพเศษธนบัตรที่ไหม้ดังกล่าวพอที่จะแลกเปลี่ยนได้หรือไม่

ทั้งนี้หลังตรวจสอบภายในบริเวณบ้านและรอบนอกตัวบ้านแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติที่ทำให้เกิดเหตุที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ไม่มีแผงไฟฟ้า ไม่มีสายไฟฟ้าอยู่ในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งหิ้งบูชาพระก็อยู่คนละที่กันกับจุดเกิดเหตุ พร้อมกันนี้จากการตรวจสอบเรื่องการถูกโจรกรรมก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ คาดว่าต้องมีวัตถุบางอย่างที่ทำให้เกิดประกายไฟในจุดเกิดเหตุเช่นนี้