บุกค้นบ้าน "แอม" ตรวจหาสารพิษ พบขวดยาต้องสงสัยถูกเผาทิ้งหลังบ้าน เตรียมส่งพิสูจน์ให้ชัดเจน
27 เม.ย. 2566, 04:46
ความคืบหน้า คดีการเสียชีวิตปริศนา ของนางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือ น้องก้อย อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตหลังไปปล่อยปลากับน้องแอม เพื่อนสนิท ที่ท่าน้ำริมแม่น้ำแม่กลอง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งครอบครัวของน้องก้อยติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม และขอให้มีการตรวจหาสารพิษในศพของน้องก้อย จนมีกระแสข่าวว่ามีการตรวจพบไซยาไนด์ ในศพของน้องก้อย และนำไปสู่การออกหมายจับและการจับกุมตัวนางสาวแอม เพื่อนสนิทของน้องก้อยนั้น
ล่าสุดเย็นวันนี้ 26 เม.ย. 2566 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรบ้านโป่ง ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังเข้าตรวจค้น บ้านพักที่นางสาวแอมเคยอาศัยอยู่กับอดีตสามีที่เป็นตำรวจ ระดับรองผู้กำกับ ซึ่งอยู่ติดกับแฟลต ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ในพื้นที่บ้านลุ่มดงกระเบา ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันเข้าตรวจค้นทั้งภายในบริเวณบ้าน และพื้นที่รอบตัวบ้านซึ่งด้านหลังเป็นป่าละเมาะ โดยมีอดีตสามีของนางสาวแอมซึ่งเป็นตำรวจเข้าร่วมสังเกตการตรวจค้นด้วย ซึ่งหลังจากการตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ขวดยาต้องสงสัย เป็นขวดแก้วขนาดเล็ก ด้านในบรรจุน้ำยาสีดำอยู่ประมาณครึ่งขวด ถูกเผาอยู่ในกองขยะ ภายในป่าละเมาะด้านหลังบ้าน จึงได้ทำการ เก็บขวดพร้อมน้ำยาด้านในส่งตรวจสอบเพื่อจะสามารถระบุให้แน่ชัดว่าเป็นสารพิษหรือไม่ นอกจากนี้ยังตรวจพบวัตถุพยาน ต้องสงสัยที่จะต้องส่งตรวจอย่างละเอียดอีกหลายอย่าง
ด้านพันตำรวจเอกปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ซึ่งเป็นผู้นำกำลังเข้าตรวจค้นกล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นการหาวัตถุพยานและวัตถุต้องสงสัยในบ้านที่นางสาวแอมเคยพักอาศัยจำนวน 2 จุด คือที่บ้านพักแห่งนี้ซึ่งนางสาวแอมเคยพักอาศัยอยู่กับอดีตสามีที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอีก 1 จุดที่บ้านพักในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจหาวัตถุพยาน รวมถึงวัตถุที่คาดว่าจะเป็นสารพิษ เพื่อส่งตรวจสอบ โดยนอกจากการตรวจสอบในบริเวณบ้านพักแล้ว ยังจะได้เข้าทำการตรวจค้นในรถของนางสาวแอมและรถของผู้เสียชีวิตที่อาจจะมีสารพิษตกค้างอยู่ เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
ด้านพันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีต รองผู้กำกับสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง ซึ่งเป็นอดีตสามี ของนางสาวแอม ที่มาร่วมสังเกตการตรวจค้นในครั้งนี้ กล่าวว่า ตนเองยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับนางสาวแอม ก็น่าจะมาจากการที่มีพยานหลักฐานแน่นหนา พอที่จะอนุมัติหมายจับได้ ซึ่งตนก็เชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำคดีอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้มีการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ ตนเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ในการเข้าตรวจค้นหรือสอบปากคำเพิ่มเติมตลอดเวลา โดยในส่วนของอดีตภรรยาตนเองนั้น หากกระทำผิดจริง ตนก็อยากบอกว่าให้รับสารภาพและยอมรับผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป