ที่จ.สระบุรีเหลืออีกไม่ถึงเดือน ใกล้จะถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 จังหวัดสระบุรี มีเขตพื้นที่เลือกตั้ง ทั้งหมด 4 เขต บรรดาผู้สมัคร ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ ต่างลงสมัครเข้าชิงเก้าอี้ ส.ส.ของแต่ละเขต ในขณะที่ เขต1 สระบุรี เป็นอีกพื้นที่ ที่ควรเฝ้าจับตามอง ทำให้เจ๊นก น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ผู้สมัครหมายเลข2 จากพลังประชารัฐ ต้องขยันเข้าถึงประชาชนมากกว่าเดิม เพราะเจ้าของเก้าอี้เดิมอย่างลูกหลานบ้านใหญ่ นายปรพล อดิเรกสาร ผู้สมัครหมายเลข1 พรรคประชาธิปัตย์ กลับมาลงสนามเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อกลับมาสานงานต่อเมื่อครั้งเป็นผู้แทนให้สำเร็จ  และอีกหนึ่งผู้สมัครที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ผู้สมัครหมายเลข8 จากพรรคเพื่อไทย น้องกล้วย น.ส.ขานิฐาณันท์ เทียมประเสริฐ ที่ว่าไปที่ไหนชาวบ้านต่างปลื้มกับความสวยและความคล่องแคล่วของเธอ 

ผู้สมัครจะใช้โอกาสช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ทุกพื้นที่มีการจัดงาน ผู้สมัครจึงได้มีโอกาสพบผู้ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตที่ตนเองลงสมัคร โดยที่ก่อนหน้านี้ทุกคนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่มีโอกาสได้สัมผัสเลยว่าผู้แทนที่ตนเองจะต้องเลือกนั้นเป็นใครมาจากไหน มีความสามารถมากน้อยเพียงใด เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสของทั้งผู้สมัครและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ได้พบปะกัน

น.ส.ขานิฐาณันท์ กล่าวว่า เดิมทีตนเอง เล่นการเมืองอยู่แล้ว เริ่มมาจาก สจ. และเคยลงสมัคร ส.ส.เมื่อปี 2557 ซึ่งเราคิดว่าเราพร้อมตรงนี้ ถึงลงมาเล่นการเมือง แล้วตนเองเป็นคนในพื้นที่ ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง ก็พร้อมที่จะเข้ามาดูแลประชาชนในพื้นที่ ช่วงนี้ลงพื้นที่กระแสตอบรับดีมาก โดยนโยบายพรรคหลายๆอย่าง และด้วยกระแสตัวบุคคลที่เราลงพื้นที่ตลอด ก็มีความมั่นใจแต่ประมาทไม่ได้ เพราะว่าผู้ลงสมัครหลายท่าน ตอนนี้ก็พยายามลงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด พอออกงานไป ทุกคนบอกอยากเห็นตัวจริง ไม่ได้อยากเห็นแค่ป้าย พยายามมาให้เห็นตัวจริงบ่อยๆ  และก็ดีใจทุกครั้งที่เราได้เจอคนแก่ เจอประชาชนคนในพื้นที่ ซึ่งเขาบอกว่า เขาดีใจที่เจอเราตัวจริง  และทุกๆครั้งที่ลงพื้นที่ก็ตอบได้เลยว่ามั่นใจ แต่ต้องขอคะแนนทุกคะแนนเสียง เราประมาทไม่ได้ ก็พยายามบอกประชาชนทุกครั้งว่า ขอโอกาสให้เราได้มาทำหน้าที่ ขอความเมตตาจากพี่น้องประชาชนชาวเขตเมืองสระบุรี เฉลิมพระเกียรติ หน้าพระลาน และตำบลห้วยแห้ง แก่งคอย จะลงพื้นที่ให้ได้มากทที่สุด เพื่อให้ประชาชนเห็นเราได้มากที่สุด 

ด้านนายปรพล กล่าวว่า ตนกลับมาลงสมัคร ส.ส.สระบุรี ในครั้งนี้เพื่อจะมาสืบสานต่องานในอดีตที่ตนเองได้ทำไว้หลายเรื่องด้วยกัน  ตนเองเคยเป็นสส.สระบุรีมาแล้ว 2 สมัย  ปี 2548 และ ปี 2550  ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ของตน ก็จะมาช่วยพัฒนาพื้นที่ดูแลชาวจังหวัดสระบุรี และสานต่อนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะตอนนี้ตนมีพรรคประชาธิปัตย์และมีนโยบายหลายเรื่องที่ตรงใจประชาชน  เพราะนโยบายของเราคิดว่าทำได้ไวและทำได้จริง อย่างเช่น นโยบาย 3 หมื่นบาท ทุกหมู่บ้านทุกชุมชน ชมรมผู้สูงอายุ  และนโยบายประกันรายได้ ซึ่งอันนี้เป็นที่ประจักษ์ผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จ เรื่องประกันรายได้ให้กับพืช ข้าว ข้าวโพด และเรื่องของโครงการสนับสนุนกรมเอสซีบี และธนาคารชุมชนทุกหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท  โครงการนมโรงเรียนฟรี 365 วัน ซึ่งนโยบายต่างๆเหล่านี้ ถือว่าเป็นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศไปแล้ว  และคิดว่าเราสามารถทำได้ไว ทำได้จริง ตามยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างบุญ สร้างชาติ ของพรรคประชาธิปัตย์  

และตนคิดว่ากลับมาในครั้งนี้จะมาสานต่อผลงานที่สร้างไวในอดีต และมีความตั้งใจที่จะมาสืบสานต่อให้กับครอบครัวอดิเรกสารที่เรารับใช้ชาวสระบุรีมาแล้ว 2 รุ่น ตั้งรุ่นคุณปู่ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร และรุ่นคุณพ่อ ปองพล อดิเรกสาร  ส่วนตนถือเป็นรุ่นที่ 3 ของอดิเรกสาร ที่จะกลับมารับใช้พ่อแม่พี่น้องชาวสระบุรีเขต 1  จริงๆตนเองไม่หนักงานใจ เพราะเราเองก็มีผลงานมาในอดีต และประชาชนก็รู้จักเป็นอย่างดีจากการที่ลงพื้นที่มาตลอดในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนด้วยดี หลายท่านก็ยังจำได้ว่าตนเองหลายไปไหนมา เนื่องจากรอบที่แล้วตนไม่ได้ลงสมัครสส. เว้นวรรคไปปี2562  ตนก็ถือว่า ตนเองเป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน ปีนี้พึ่งจะอายุ 48 ปี ก็มีความคิด ความอ่านที่ทันสมัยอยู่ และก็ยังมีกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้การสนับสนุนอยู่พอสมควร และก็มีแนวคิด มีสิ่งดีๆที่จะนำเสนอ ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่จังหวัดสระบุรีด้วย ตนมีความคิดเห็นว่า

อนาคตสระบุรีของเรา ควรจะต้องมีมหาวิทยาลัยเป็นของตัวเอง เพราะจังหวัดอื่นเขามีหมด แต่เรายังไม่มีเลย  ตนคิดว่าเป็นโอกาสดี ที่เราจะต้องผลักดันให้มีมหาวิทยาลัยหรือสถาบันราฏัพก็ได้ที่สามารถรองรับเยาวชนของเราไม่ต้องไปเรียนที่อื่นไกลๆ  เรียนที่สระบุรีก็ได้