เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 23 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 72 บ้านไพรพัฒนา หมู่ 10  ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.ธนวัฒน์  บุญนำ รอง ผกก.สืบสวน สภ.ภูสิงห์ พร้อมด้วย ดต.สุเทศ  จันทร์เปรียง ผบ.งานป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ภูสิงห์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.3 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายวิไล  พิมูลชาติ  อายุ 21 ปี อยู่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากที่นายวิไล มีอาการหลอนยาบ้าอย่างหนักและได้ก่อเหตุใช้ด้ามเสียมกระหน่ำตีศีรษะของนายเชิด พิบูลชาติ  อายุ  52 ปี พ่อของตนเองเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของคืนวันที่ 22 เม.ย. 66 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิไลพร้อมด้วยด้ามเสียมที่ใช้ก่อเหตุไปชี้จุดที่เกิดเหตุ จากนั้น นำตัวนายวิไลพร้อมของกลางไปส่งมอบให้ พ.ต.ท.อรรณพ  มณีวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. นายบุญมี  เสนคราม กำนัน ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจาก  นาย บันเทิง  แสงสว่าง  ผญบ.ไพรพัฒนา.ม.10.ต.ไพรพัฒนา ว่า เกิดเหตุลูกชายทำร้ายร่างกายพ่อของตนเองจนถึงแก่ความตายที่บ้านเลขที่ 72 บ้านไพรพัฒนา หมู่ 10  จึงได้แจ้งให้ พ.ต.ท.อรรณพ  มณีวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ทราบ และได้ร่วมกันเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน สภ.ภูสิงห์ และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.3 กองกำลังสุรนารี 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบร่างของชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังว่าคือ นายเชิด พิบูลชาติ  อายุ  52 ปี  เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน สภาพศพสวมกางเกงลายพรางขายาว สวมเสื้อยืดสีดำ มีร่องรอยบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะเสียชีวิตคาที่อยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน จากการสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ  นายวิไล    พิมูลชาติ  อายุ 21 ปี  ซึ่งเป็นลูกชายของนายเชิด และมีอาการหลอนยาบ้าอย่างหนัก เป็นผู้ใช้ด้ามเสียมตีพ่อของตนเองจนกะโหลกแตกและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังจากก่อเหตุแล้วได้หลบหนีไป และได้หวนกลับมานอนที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ และถูกเจ้าหน้าที่ ตร.จับกุมได้  ในสภาพที่ยังมีอาการหลอนยาบ้าอยู่

พ.ต.ท.อรรณพ  มณีวงษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ กล่าวว่า  จากการสอบสวนนายวิไล  พิบูลชาติ  ผู้ต้องหารายนี้แล้วได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้ด้ามเสียมตีนายวิไล  พิบูลชาติ พ่อของตนเองจนถึงแก่ความตาย   แต่ไม่ยอมบอกถึงพฤติกรรมการก่อเหตุว่า เกิดจากสาเหตุใด ตนจึงได้ตั้งข้อหาว่า ทำร้ายร่างกายบุพการีถึงแก่ความตาย ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป