หนุ่มวัย 42 สังเวยน้ำโขง ขณะลงเล่นน้ำสงกรานต์ชายหาด
17 เม.ย. 2566, 12:31
อีกรายที่ลงเล่นน้ำสงกรานต์ชายหาดริมแม่น้ำโขง คราวนี้ถึงคิวชะตาขาดของชายหนุ่มวัย 42 ปีที่ลงล่องลอยเล่นน้ำไหลอยู่เพียงลำพัง จนเพลินถูกน้ำพัดพาร่างลงร่องน้ำลึก ประกอบกับผู้ตายสวมใส่กางเกงยีนส์ขายาวและสวมเสื้อยืดแขนยาว จึงเป็นเครื่องพันธนาการทำให้ว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดได้ลำบาก ถูกกระแสน้ำกลืนหายไปต่อหน้าผู้คนที่มาเล่นน้ำคลายร้อนและชาวบ้านที่กำลังงมหาหอยน้ำโขงจำนวนมาก
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 เม.ย.ขณะที่นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ ออกตรวจเยี่ยมประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาลงเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อคลายร้อนตามชายหาดริมน้ำโขง ขณะที่สอบถามการค้าขายของกินของใช้กับพ่อค้าแม่ค้าอยู่ศาลาริมน้ำโขง หน้าวัดสุวรรณราชดาราม บ้านหอคำ ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำร้องตระโกนบอกให้ช่วยคนจมน้ำ เมื่อจับใจความได้จึงได้แจ้งไปยัง ร.ต.อ.ชาติฉกรรจ์ สร้อยทอง พนักงานสอบสวนเวร สภ.หอคำ ได้ประสานไปยังหน่วยรักษาความปลอดภัยทางน้ำได้แก่ สถานีเรือ นรข.บึงกาฬ ตำรวจน้ำบึงกาฬ หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลหอคำ และหน่วยกู้ภัยชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำสว่างศรีวิไลโขงพิทักษ์ทีม ร่วมกันออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าผู้สูญหายได้เดินลงมาเล่นน้ำเพียงลำพัง ขณะที่ร่องลอยน้ำปล่อยให้กระแสน้ำไหลพัดพาร่างไปเรื่อยๆ แบบชิลล์ ๆ เพลิดเพลินเพราะบริเวณนั้นระดับน้ำตื่นเขินไม่ลึกนักเพียงหัวเข่า แต่อยู่ๆ กระแสน้ำก็พัดพาร่างชายหนุ่มตกลงไปสู่ร่องน้ำลึก พยายามว่ายน้ำตะเกียกตะกายเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ก็สู้แรงน้ำไหลไม่ไหวว่ายจนหมดแรงและเรียกให้คนช่วย สุดท้ายก็จมน้ำหายไปต่อหน้าคนที่ลงเล่นน้ำสงกรานต์คลายร้อนอยู่ริมหาด และชาวบ้านที่ลงงมหาหอยน้ำโขงอยู่บริเวณใกล้ๆ
หลังจากหน่วยกู้ภัยทั้งส่วนราชการและหน่วยกู้ภัยชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำสว่างศรีวิไลโขงพิทักษ์ทีมจึงสวมใส่ชุดประดาน้ำ และใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านนำเบ็ดราวมาลากไปตามจุดที่คาดว่าร่างผู้สูญหายจมอยู่ โดยใช้เวลาการค้นหา 2 ชั่วโมง จึงพบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายจตุรชัย ขอบไชยแสง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 70 หมู่ 5 บ้านโนนยาง ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ สภาพศพสวมใส่เสื้อยึดแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว โดยมี นพ.กิตติ ปูคะวนัช แพทย์เวร รพ.บึงกาฬ ร่วมชันสูจน์ ญาติไม่ติดใจเหตุแห่งการเสียชีวิตจึงได้มอบร่างให้กับญาติไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.