นายกฯ ห่วงใยปัญหาพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุมีโอกาสเพิ่มขึ้น สนับสนุนบุตรหลาน ปรับสภาพแวดล้อมบ้านให้ปลอดภัย
6 เม.ย. 2566, 09:30
วันนี้(6 เม.ย. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุ โดยให้ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพผู้สูงวัย และเนื่องในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี เป็นวันผู้สูงอายุ ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ นั้น กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทย มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ ร้อยละ 20 และคาดการณ์ว่าในปี 2580 จะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุประมาณ ร้อยละ 30 ซึ่งกลุ่มประชาชนผู้สูงอายุ มีความเสี่ยงที่จะได้รับอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม เนื่องจากเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถลดลง เช่น การมองเห็นไม่ชัด สายตาผิดปกติ มีปัญหาการทรงตัว เดินเซ เคลื่อนไหวลำบาก การรับรู้ที่ช้าลง การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ และมีโรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง โดยการพลัดตกหกล้มในผู้สูงอายุเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ ที่นับวันจะมีโอกาสเพิ่มขึ้น จากข้อมูลของระบบบริการสุขภาพพบว่า 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุ หกล้มทุกปี สถานที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดขึ้นในบ้านร้อยละ 65 และเกิดขึ้นในห้องน้ำมากถึงร้อยละ 30 ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการลื่น สะดุด หรือก้าวพลาดบนพื้นระดับเดียวกัน ทั้งยังพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ร้อยละ 80 พักอาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ไม่มีราวจับในห้องน้ำ ใช้ส้วมนั่งยอง มีพื้นต่างระดับ มีสิ่งขวางกั้น บันไดไม่มีราวจับ เป็นต้น
นายอนุชา กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข้อมูลดังกล่าว พร้อมแสดงความห่วงใยประชาชนผู้สูงอายุ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปเยี่ยมผู้สูงอายุในช่วงสงกรานต์ ได้ทำตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้สูงอายุจะได้รับอุบัติเหตุจากการพลัดตกหกล้ม ด้วยการ 1. เลือกและมอบรองเท้าให้ผู้สูงอายุ เป็นรองเท้าสำหรับผู้สูงอายุที่มีลักษณะหน้ากว้าง หุ้มส้น ส้นสูงไม่เกิน 1 นิ้ว รูปทรงเหมาะกับรูปเท้า พื้นมีดอกยางไม่ลื่น 2. ปรับบริเวณพื้นที่ห้องน้ำให้ปลอดภัย โดยการติดตั้งราวจับ ทั้งบริเวณอาบน้ำและบริเวณโถส้วม ใช้โถส้วมเป็นแบบชักโครก และวางแผ่นรองกันลื่นบริเวณที่อาบน้ำ ใช้เก้าอี้นั่งอาบน้ำ ที่มั่นคงมีพนักพิงแขนและพิงหลัง สำรวจและปรับสภาพแวดล้อมของบ้านให้ปลอดภัย เช่น จัดห้องนอนของผู้สูงอายุให้ใกล้กับห้องน้ำ ใช้ประตูแบบบานเลื่อน ไม่มีกลอนประตู มีแสงสว่างเพียงพอ ปรับพื้นเรียบเสมอกัน เป็นต้น
"นายกรัฐมนตรีสนับสนุนแนวคิดให้บุตรหลานกลับบ้านสงกรานต์ ส่งมอบความรักความห่วงใยให้สูงอายุในครอบครัวได้เดินอย่างมั่นคง เพื่อความปลอดภัย ห่างไกลจากการพลัดตกหกล้ม ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุโดยให้ปี 2566 เป็นปีแห่งสุขภาพผู้สูงวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง ประกอบด้วย ดำเนินการคัดกรองความถดถอย 9 ด้าน ส่งต่อผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเข้ารับบริการรักษา ส่งมอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตแก่ผู้สูงอายุทั่วประเทศ ได้แก่ แว่นสายตา ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ฟันเทียมและรากฟันเทียม โดยผู้สูงอายุสามารถเข้ารับบริการดูแลสุขภาพ เช่น ฉีดวัคซีน ตรวจคัดกรองโรคเบาหวาน ตรวจคัดกรองโรคซึมเศร้า ได้ที่โรงพยาบาลคู่สัญญาของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี" นายอนุชา กล่าว