เสธ.หิ บุกถิ่นกาญจน์ เยือนเสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร สส.รทสช.เขต 5 ยันเช่าที่ทำการพรรค เจ้าของที่ไหนจะบอกว่ามีคดีห้ามเช่า
12 มี.ค. 2566, 21:31
วันนี้ 12 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” อดีตนายทหารชื่อดัง ในฐานะผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เดินทางมาที่ศูนย์ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 เลขที่ 903 หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยมีพลเอกทำนุ โพธิ์งาม หรือเสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร สส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ให้การต้อนรับ โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” ได้พบปะพูดคุยเกี่ยวผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นเกี่ยวกับปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน รวมทั้งความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่เรื่องการทำมาหากินโดยเฉพาะการเข้าไปเก็บหาของป่า ประเภทหน่อไหม้ และเห็น เป็นต้น การพูดคุยใช้เวลาประมาณ 40 นาที
จากนั้น พล.อ.ทำนุ โพธิ์งาม หรือเสธ.นุ ว่าที่ผู้สมัคร สส.กาญจนบุรี เขต 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ได้นำแผนที่โดยรวมของจังหวัดกาญจนบุรี มาอธิบายถึงลักษณะภูมิประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ เขต 5 ที่ทา กกต.ยังไม่ชี้ขาดว่าจะใช้รูปแบบการแบ่งเขตเลือกในรูปแบบใด จากทั้งหมด 5 รูปแบบการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” พรรครวมไทยสร้างชาติ มีผู้สมัคร สส.ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ครบแล้วทั้ง 5 เขต เรื่องนี้คาดหวังเอาไว้ว่าจะได้ สส.กี่ที่นั่ง ซึ่ง “เสธ.หิ” ตอบว่า ต้องขอเรียนว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้ดูแลการเลือกตั้งในภาคนี้ แต่การที่มาหาเสธนุในวันนี้เป็นเรื่องความสัมพันธ์กันส่วนตัวเพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และเป็นนโยบายของผู้ใหญ่ที่ว่าเรามีความมุ่งมั่นที่จะปักธง ถามว่ารวมไทยสร้างชาติมั่นใจหรือไม่นั้น ตอบเลยว่าพรรครวมไทยสร้างชาติพยายามที่จะปักธงให้ได้ทุกเขต แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพยายามบอกตลอดเวลาว่า จะได้ สส.เท่าไหร่นั้น สิ่งๆนี้ผมขอเคารพสิทธิและเสียงของประชาชน เพราะผมจะไปตอบแทนประชาชนไม่ได้
สำหรับเสธ.นุ เองท่านก็จะพยายามของท่านอย่างเต็มที่ ผมขอเรียนฝากเอาไว้ตรงนี้ว่าตั้งแต่ท่านเป็นทหารท่านตั้งใจทำงานท่านอยู่ตรงไหนท่านก็ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ครั้งนี้การที่ท่านประกาศตัวว่าจะลงสมัคร สส.ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ท่านก็จะทำอย่างเต็มที่เช่นกัน เมื่อท่านตั้งใจเต็มที่ แต่ปากกาอยู่ที่มือประชาชน เรามีหน้าที่เดินไปบอกแสดงความตั้งใจให้ประชาชนได้เห็น ทุกเขตของจังหวัดกาญจนบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติมีความตั้งใจที่จะรับใช้ประชาชนทุกเขต ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชนว่าท่านจะให้โอกาสกับพรรคของเราหรือเปล่า
ที่ผ่านมาท่านอาจจะให้โอกาสพรรคอื่นไปบ้างแล้ว ท่านลองดูว่า ถ้าท่านเอาไข่ไปวางในตะกร้าใบเดียวถ้าตะกร้าตกแตกไข่มันก็จะสูญหมด ซึ่งท่านอาจจะเอาไข่มาวางไว้ที่ตะกร้าของพรรครวมไทยสร้างชาติซึ่งเป็นตะกร้าใบที่ห้าบ้างก็ได้ ท่านลองดู ซึ่งเราจะทะนุถนอมไข่ในตะกร้าเป็นอย่างดี ถามว่าลึกๆแล้ว พรรครวมไทยสร้างตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะได้ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 5 เขตหรือไม่นั้น แนวทางทำพรรคการเมือง มันเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้วว่าทุกพรรคก็อยากได้ ส.ส.ทุกเขต แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะให้ความเมตตากับพวกเราอย่างไร ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เราตอบแทนประชาชนไม่ได้ แต่เรามีหน้าที่ที่จะนำเสนอสิ่งดีไปให้และพร้อมรับใช้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า “ คิดอย่างไรกับคำว่า "ตกปลาในบ่อเพื่อน" เสธ.หิ ตอบว่า...ผมบอกได้เลยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ หลายคนเห็นว่าพรรคนี้เป็นอย่างไรมีอุดมการณ์อย่างไรก็อยากที่จะเข้ามาร่วมก็เป็นเรื่องธรรมดา คำว่าตกปลาในบ่อเพื่อ พรรคเพิ่งตั้งขึ้นมาให้แล้วเราจะไปตกที่ไหน แต่เพียงแต่ว่าพรรคของเราเพิ่งตั้งมาใหม่และเราอยู่ที่ต่ำ เพราะพรรคของเราใครๆก็มองว่าต่ำอยู่แล้ว มันเป็นธรรมชาติเมื่อพรรคอยู่ที่ต่ำ น้ำก็ไหลมารวมกัน บางทีปลามันก็ไหลมาด้วย ซึ่งเราไม่ได้ไปตกที่บ่อใคร ปลาเขาอยากมาเขาก็มาเพราะน้ำที่นี่มันใส อยู่ได้อยู่เย็นสบายก็มาอยู่ก็แค่นั้นเอง
ถามว่า สส.ที่มา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ส.ส.ทุกคนมีวิจารณญาณของตัวเอง คำพูดนี้ผมไม่อยากให้ใช้กับทางการเมือง เพราะทุกคนที่เป็น ส.ส.หรือทุกคนที่มาลงสมัคร ส.ส.เขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่พอ และหลานท่านผมเชื่อว่าผู้ที่ ส.ส.อยู่ในสภาไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่กำเนิดตั้งแต่เป็น ส.ส.จนถึงขั้นสุดท้ายในการเล่นการเมือง หลายคนเปลี่ยนพรรคไปพรรคมา เพราะฉะนั้นอย่าใช้คำพูดนี้อีกเลย เพราะว่าคำพูดนี้ผมเชื่อว่ามันใช้กับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้ เพราะทุกท่านมีวิจารญาณของตัวเอง ต้องให้เกียรติและกรุณาให้เกียรติความคิดของทุกคน ตรงนี้ผมว่ามันสำคัญกว่า
ถามว่า กระแสข่าวโจมตีเรื่องการไปเช่าพื้นที่บริษัทที่เชื่อมโยงกับส.ว.อุปกิต ทำที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้ว่าสุดท้ายจะยกฟ้องก็ตาม จะยกเลิกไม่เช่าหรือยังยืนยันเช่าต่อไปนั้น ผมขอเรียนว่าเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม ในการที่จะหาสถานที่ตั้งพรรค ผมถามว่าหัวหน้าพรรคต้องไปหาด้วยตัวเองหรือไม่ หัวหน้าพรรคผมมีตำแหน่งที่จะต้องทำงานให้รัฐบาล วันๆหนึ่งเวลาทานข้าวยังไม่มีเลย มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะไปหา เขาแค่ให้สโคปกว้างๆว่าต้องการที่อยู่บริเวณใด
อย่าว่าแต่พรรคการเมืองเลย แค่บริษัทเล็กๆ เช่นบริษัทของผมเอง ผมยังไม่เคยไปดูที่ตั้งของบริษัทด้วยตัวเองเลย ซึ่งเราก็ดูจากเจ้าหน้าที่ที่เสนอสถานที่และเสนอสถานที่ขึ้นมา เมื่อต้องการได้ที่ทำการพรรค เมื่อมีคนให้เช่าที่ หรือให้เช่าตึกที่อยู่ในทำเลที่เราต้องการเช่า ราคาเท่าไหร่ก็เช่า มันก็แค่นั้นเอง ซึ่งบางครั้งอาจจะมารู้ภายหลังก็ได้ว่าเป็นของใคร แต่เมื่อมารู้เราก็ได้ทำสัญญาเช่าไปก่อนแล้ว ซึ่งมันไม่ได้เสียหายอะไร ในวันที่เช่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องมันมาเกิดภายหลัง
ถามว่าเวลาคนไปเช่าที่หรือไปเช่าบ้านใคร มีไหมเจ้าของบ้านบอกว่า อย่ามาเช่าบ้านผม เพราะผมโดนคดีนั้นคดีนี้มา ผมถามว่ามีเจ้าของที่หรือเจ้าของบ้านหลังไหนบอกอย่างนี้บ้างผมขอถามหน่อย และที่สำคัญหัวหน้าพรรคของผมไม่มีเวลาที่จะไปหาที่เช่าด้วยตนเองหรอก แต่หัวหน้าพรรคบางพรรคท่านอาจจะมีเวลาว่างเยอะ ซึ่งท่านอาจจะมีเวลาไปเดินดูว่า จะไปเช่าตรงนี้ ไปเช่าตรงโน้น ไปดูไปหากันเอาเอง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องความขยันของแต่ละท่าน เรื่องนี้ผมไม่รู้ แต่รู้ว่าพรรคของผมไม่มีเวลาแน่นอน แค่ให้เจ้าหน้าที่ไปจัดมาเสนอก็แค่นั้นเอง”ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ หรือ “เสธ.หิ” เผย