"รัฐบาล" ดึงศักยภาพครู-ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเกษียณอายุ ร่วมพัฒนากำลังคนของประเทศผ่านโครงการอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ
2 มี.ค. 2566, 08:51
วันที่ 2 มีนาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วในปี 2564 ที่ผ่านมา และคาดว่าในปี 11 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 28 ของประชากรทั้งประเทศซึ่งถือเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด รัฐบาลได้กำหนดนโยบายและแผนงาน กิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ เพื่อรองรับกับสภาวการณ์ดังกล่าว ตั้งแต่ระดับยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิบัติการด้านผู้สูงอายุระยะที่3 (พ.ศ.2566-80) ผลักดันทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ รวมถึงดำเนินการเชิงรุกเตรียมการสำหรับผู้มีอายุ 25-59 ปีในปัจจุบันที่เป็นผู้สูงอายุใน 1-35 ปีข้างหน้า
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการกำลังจะดำเนินโครงการอาสาสมัครกระทรวงศึกษาธิการ (อส.ศธ.) ซึ่งจะเป็นโครงการระยะ 3-6 เดือน ข้างหน้าของปี 2566 โครงการนี้จะเป็นการดึงศักยภาพความรู้ความสามารถของผู้สูงอายุกลุ่ม ครูเกษียณอายุราชการ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพ เข้ามาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ให้กับคนทุกช่วงวัยในระดับพื้นที่ผ่านกิจกรรมต่างๆ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภารกิจของ อส.ศธ. มีอย่างเช่นการเป็นครูอาสาสมัครจิตอาสา เพื่อพัฒนาการศึกษาระหว่างสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนทุกระดับ ช่วยในการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชน การฝึกทักษะของคนในชุมชน การเป็นวิทยากรในศูนย์ฝึกอบรบฝีมือแรงงาน ของกระทรวงแรงงาน เป็นต้น
โดยกระทรวงศึกษาธิการจะประกาศรายละเอียดโครงการและเปิดรับสมัคร อส.ศธ. ผ่านระบบออนไลน์ต่อไป มีเป้าหมายผู้สมัครเป็นครูเกษียณอายุ ผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพต่างๆ จำนวน 30,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
"โครงการ อส.ศธ. จะช่วยดึงศักยภาพของผู้สูงอายุที่มีอยู่สูงมากด้วยประสบการณ์ทั้งมิติชีวิตและการทำงาน มาเสริมสร้างการพัฒนาคนในช่วงวัยอื่นๆ และยังช่วยให้กลุ่มผู้สูงอายุที่ร่วมโครงการมีความสุข รู้สึกมีคุณค่าจากการได้ทำประโยชน์ให้สังคม และเป็นโอกาสที่จะเกิดงานใหม่ๆ ระหว่างร่วมและหลังการร่วมโครงการ โดยกระทรวงศึกษาธิการจะส่งเสริมให้มี อส.สธ. ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว