วันที่ 15 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งในเขต หมู่ 7.ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม พบกับนายประสิทธิ์   คงฤทธิ์ อายุ 46 ปี และภรรยา  โดยนายประสิทธิ์ ได้หยิบเอกสารสำเนาใยสัญญาเช่าที่ดิน ให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมเล่าว่าตนได้ไปขอเช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดิน เพื่อมาทำร้านอาหาร ร้านดนตรี สดโดยเป็นที่ดินเปล่า ทำสัญญา เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยตนก็มาเคลียร์พื้นที่ ถมดิน สร้างร้านเอง และเปิดทาสีได้ปีกว่าๆ ก็มาเกิดปัญหาก็ตอนที่ค้างค่าเช่าเมื่อช่วงโควิดเดือน ก.ค.-พ.ย.ปีที่แล้วแล้วและฝนตกด้วย ทำให้ขายไม่ได้ลูกค้าไม่เข้าร้าน

นายประสิทธิ์ เล่าต่อว่า โดยช่วงนั้นทางเจ้าของที่ดินก็บอกไม่เป็นไร และปลายเดือน ธ.ค.65 ตนเองก็ทยอยจ่ายไป 8,500 บาท ต่อมาเดือน วันที่ 20 มกราคม 66 ที่ผ่านมาก็จ่ายไป 14,500 บาท วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 66 ก็จ่ายค่าไฟ อีก 1,500 บาท แต่เจ้าของที่ดิน ไล่ตนและเอาขวดมาชี้หน้า และไม่ให้ตนเข้าร้านและไล่พนักงานออกหมดเลย รวมถึงข้าวของก็ยึดไปหมดจนตนไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งเมื่อตนเองไปตรวจสอบถึงรู้ว่ามีการแก้ตัวเลขในหนังสือสัญญา จากวันทำสัญญาปี 2564 เป็นปี 2563 และวันหมดสัญญาจากปี 2566 เป็นปี 2565 และแก้อายุตนจากอายุ 45 เป็น 44 ซึ่งเมื่อตนดูก็พบว่ารอยรอยลบ และใช้น้ำยาลบคำผิดลบออกและเขียนเลขใหม่

นายประสิทธิ์ เล่าต่อไปอีกว่า การที่ตนเองตรวจสอบเจอหนังสือสัญญาที่ถูกแก้นั้น เจ้าของที่ดินได้มาขอยืมตน บอกว่าจะไปทำเรื่องกู้เงิน ตนก็ให้ไปเพราะคิดว่าไม่มีอะไร จนเขาเอามาคืนก็ไม่ได้ดูจนไปร้องศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่บอกว่าสัญญาหมดอายุจึงรู้และตนได้ไปแจ้งความที่ สภ.โพรงมะเดื่อ แล้วและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากับตนที่ร้านเพื่อจะเอาของคืนแต่ก็ถูกเจ้าของที่ดินด่าและไล่ตนและตำรวจออกมาจากร้านซึ่งตนมีคลิปตอนที่ถ่ายไว้

โดยนายประสิทธิ์ได้นำหม้อหุงข้าวขนาดเล็กมาให้ผู้สื่อข่าวดู และบอกว่าในบ้านไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะตู้เย็นของในครัวของใช้ต่างๆตนนำไปใช้ที่ร้าน และถูกเจ้าของที่ยึดไปหมด ซึ่งตนอยากแค่อยากได้ของคืน จะได้นำมาทำมาหากินหรือขายใช้หนี้ซึ่งตอนนี้ตนก็มีหนี้นอกระบบอีก 2 หมื่นกว่าบาท และมีลูกอีก 2 คน อาย 10 ขวบ กับ 9 ขวบ ก็ค้างค่าเทอมอยู่ จนครูโทรทวงแล้วว่าจะสอบแล้วยังไม่จ่ายค่าเทอม ซึ่งตนและภรรยากลุ่มใจมากไม่มีทางออกแจ้งตำรวจก็ไม่รู้จะไปอย่างไงต่อ