สลดรับตรุษจีน "ตาวัย76" กินไก่ต้มติดคอดับ
23 ม.ค. 2566, 12:29
เมื่อเวลา 12.32 น. วันที่ 22 ม.ค. 66 ศูนย์กู้ชีพจังหวัดอ่างทอง ได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือทางสายด่วน 1669 ว่ามีชายสูงอายุรับประทานไก่ต้มแล้วเกิดติดคอ มีอาการหมดสติเรียกไม่รู้สึกตัว เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขขที่ 22/ง หมู่ที่ 4 ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลป่าโมก รีบรุดเดินทางไปให้การช่วยเหลือ พร้อมด้วยกู้ชีพ อบต.โรงช้าง และสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เดินทางไปที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ พบว่าผู้ป่วยได้ขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพจะเดินทางไปถึง ทราบชื่อต่อมา นาย สุรินทร์ โพธิปิน หรือตาอี๊ด อายุ 76 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้น สีน้ำตาลอ่อน สวมกางเกงขายาวสีดำ จากการชันสูตรของแพทย์พบว่าบริเวณลำคอของผู้เสียชีวิต มีชิ้นไก่ต้มขนาดกว้าง 2 เซนติเมตร ยาว 3 เซนติเมตร หนา 1 เซนติเมตร ติดค้างอยู่ในลำคอ ทำให้อุดกลั้นทางเดินหายใจทำให้เสียชีวิต
จากการสอบถาม นาง สมนึก วงษ์งาม อายุ 52 ปี หลานสาว เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองหยุดงานจึงได้นำไก่ต้มมาไหว้เจ้าที่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังจากไหว้เสร็จได้แบ่งไก่ต้มมาให้ป้ารับประทาน แต่คาดว่าลุงคงอยากกิน ทางป้าจึงได้ฉีกไก่ให้ลุงกินจนติดคอ แล้วเสียชีวิตในที่สุด
ส่วนทางด้าน นาง อุสนีย์ โพธิปิน หรือป้าอู๊ด อายุ 70 ปี ภรรยา เปิดเผยทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกเสียใจว่า ตนเองอาศัยอยู่กับลุงอี๊ดเพียง 2 คนตายาย ลุงอี๊ดล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มากว่า 10 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดขนิดที่ว่าไม่ให้คลาดสายตา ปกติเวลากินตนเองก็จะคอยนั่งเฝ้าดูแล ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ฉีกไก่ต้มคลุกซอสให้กิน แต่วันนี้ตนเองจะเดินไปเอาผงซักฟอกไปซักผ้า ได้ยินเสียงลุงอี๊ดร้องจึงเดินมาดู พบว่าลุงอี๊ดมีบางอย่างติดอยู่ในลำคอ จึงทุบหน้าอกทำการช่วยเหลือก็ไม่ออก กินน้ำเข้าไปก็ไม่ได้จนแน่นนิ่งไปต่อหน้าต่อตา เมื่อวานก็ฉีกไก่ให้กินก็ไม่เป็นอะไร เพราะลุงอี๊ดชอบกินข้าวมันไก่มาก ตนเองก็ได้แต่รู้สึกเสียใจมาก
ทางโรงพยาบาลป่าโมก จึงได้ทำการแจ้ง ร.ต.อ.อำนาจ มีทองคำ รองสารวัตรสอบสวน สสภ.ป่าโมก ให้เดินทางมาทำการสอบสวนพยาน และทำการเก็บหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้มอบให้ญาตินำไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป