"หนุ่มพิการ" อดข้าวผ่อนรถยิ้มออก หลังทนายอาสา ช่วยติดต่อเจ้าของรถ โอนกรรมสิทธิ์ให้
27 ก.ย. 2562, 16:10
จากกรณีนายเมืองคำ เรืองใจ หนุ่มพิการชาว จ.ตาก วัย 44 ปี ร้องเรียนผ่านสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงติดตามตัวเจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า โซลูน่า ทะเบียน กข 433 ตรัง ซึ่งเจ้าตัวทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของรถ และมีการผ่อนชำระจนหมดแล้ว แต่ผ่านมา 6 เดือนเศษ เจ้าของรถยังไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ โดยนายเมืองคำ เผยว่าตัวเองต้องทำงานอย่างหนักในโรงงานไม้ยางพารา อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ยอมอดมื้อกินมื้อ เพื่อหาเงินมาผ่อนรถ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนนี้นั้น
อ่านข่าว : "หนุ่มพิการ" ยอมอดมื้อกินมื้อ ทำงานผ่อนรถมือสองจนหมด กลับถูก "เจ้าของรถ" เบี้ยวไม่โอนกรรมสิทธิ์ให้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายเกรียงศักดิ์ สารภี ทนายความใน จ.กระบี่ ซึ่งอาสาเข้ามาเป็นผู้ติดตามเรื่องดังกล่าวให้กับนายเมืองคำ ได้นัดทั้ง 2 ฝ่าย มาพบกัน โดยฝ่ายของเจ้าของรถมีนายสาแหละ บูสมาน ผช.ผญบ.หมู่ 6 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง เป็นตัวแทนเดินทางมาพบกับนายเมืองคำ พร้อมนำเอกสารสำคัญเกี่ยวกับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ประกอบด้วยเล่มทะเบียนรถ เอกสารของเจ้าของรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวมีชื่อผู้ครอบครองคือนายดำรงพล ชิตแก้ว อายุ 35 ปี ญาติของนายศุภคาร หมินหมูด อายุ 35 ปี ชาว ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นคนทำสัญญาซื้อขายกับนายเมืองคำ ตรวจสอบเอกสารทั้งหมดตรงกับรถที่ขายมาให้กับนายเมืองคำ จึงส่งมอบให้นายเมืองคำ นำเอกสารไปดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที
นายสาแหละ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานจากพ่อของนายศุภคาร หลังมีข่าวปรากฏทางสื่อว่านายศุภคาร ขายรถให้กับนายเมืองคำ ก่อนนี้พ่อของนายศุภคาร ไม่ทราบมาก่อนว่ามีการซื้อขายรถกันมา จนมีข่าวปรากฏ จึงขอให้ตนช่วยเป็นคนกลางติดต่อมาทางนายเมืองคำ เพื่อดำเนินการโอนรถให้ ก่อนจะนำเอกสารมาส่งมอบวันนี้ มีการตรวจสอบหลักฐานการโอนเงินผ่อนชำระ ก็พบว่านายเมืองคำ ได้ผ่อนชำระมาตามสัญญาจริง ทางเจ้าของรถเดิม ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะไม่ทราบว่ามีการซื้อขายรถกันไปแล้ว
ด้านนายเกรียงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ทันทีที่มีเรื่องนี้ปรากฎออกมาทางสื่อ ตนเห็นว่านายเมืองคำเป็นคนพิการ ที่มีความตั้งใจทำงาน ต่อสู้ชีวิต และหาเงินผ่อนรถมาจนหมด จึงอาสาเข้ามาช่วยเหลือติดตามเรื่องนี้ให้ จนสามารถติดต่อเจ้าของรถได้ ซึ่งจากการพูดคย ฝ่ายเจ้าของรถเองก็ไม่ได้มีเจตนาจะหลอกลวงแต่อย่างใด แต่เป็นการดำเนินการล่าช้า เพราะตัวคนทำสัญญาซื้อขาย กับชื่อผู้ครอบครองรถไม่ตรงกัน เมื่อฝ่ายเจ้าของรถรวบรวมเอกสารนำมาส่งมอบให้นายเมืองคำ ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการยุติปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกัน อยากให้นายเมืองคำ เป็นแบบอย่างให้ทุกคนได้รู้จักสู้ชีวิต เพราะแม้เจ้าตัวจะพิการ แต่ยังมีความรับผิดชอบ ดิ้นรนด้วยตัวเอง
ขณะที่นายเมืองคำ หนุ่มพิการ เผยด้วยว่า ตนเองรู้สึกดีใจมากที่ทุกคนช่วยกันประสานเรื่องนี้ให้ จนตนได้มีรถเป็นของตัวเองตามที่ตั้งใจไว้ ขอขอบคุณทุกคนทั้งทนายความ สื่อ และตัวแทนเจ้าของรถ ที่ช่วยดำเนินการให้.
ชมคลิป