ส่วนนักเรียนสาว น.ส.ดวงพรหรือสไปรท์ ได้เปิดเผยว่าตอนเย็นวันที่ 8 ม.ค.ได้มีข้อความเข้ามาว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีมา จำนวนเงิน 99,850 บาท ซึ่งครั้งแรกก็รู้สึกตกใจสั่นนึกว่าพี่ชายโอนมาให้ แต่เขาไม่เคยโอนมากขนาดนั้น เมื่อเข้าไปตรวจสอบในแอปธนาคารกรุงไทย ก็รู้สึกว่ามีเงินเข้ามาจำนวนดังกล่าวจริงๆ ก็คิดว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่โอนมาหลอกเราเท่านั้น ซึ่งก็เคยเห็นเคยอ่านตามสื่อต่างๆ จึงเล่าให้พี่สาวฟังพี่สาวก็บอกว่าให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และก็ได้โพสต์ทวิตหาเจ้าของบัญชีที่โอนเงินเข้าบัญชีผิดเกือบแสนบาท ถึงได้ทราบภายหลังว่า ผู้โอนเงินผิดคือพี่แจงรองนายกเทศมนตรี ตำบลหนองพอกและขอฝากบอกเพื่อนๆ ว่าถ้าเป็นการเก็บเงินได้ให้ไปแจ้งตำรวจได้เลยก็ได้เพราะมันเป็นการเก็บเงินได้ และก็บอกว่าเก็บได้บริเวณไหน ถ้าการโอนผิดก็มีสลิปอยู่แล้วก็ลงในสื่อโซเชียลหาเจ้าของเงินที่โอนผิดให้ใช้สื่อโซเชียลให้เกิดเป็นประโยชน์ให้มากขึ้น

ด้าน น.ส.จุฑารัตน์หรือแจง ดวงจำ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าการโอนเงินผิดในตัวเลข 3 ตัวชีวิตก็เปลี่ยนเนื่องจากว่าตัวหน้า 3 ตัวหน้าของธนาคารกรุงไทยที่ตั้งใจจะโอนไปคือขึ้นต้นด้วย 774 แต่หลงไปกดเป็น 447 และตัวเลขข้างหลังก็ตรงกันกับบัญชีของน้องสไปรท์ ถึงได้เดินทางมาพบกับน้องที่บ้านโป่งเปือยและน้องเขาก็โชว์หลักฐานให้ดูว่ามีเงินในบัญชีเท่าที่ดิฉันโอนมาผิดจริงและน้องก็ได้โพสต์หาเจ้าของเงินที่โอนเงินผิดจริงด้วย ซึ่งเป็นการ เซอร์ไพรส์มากและเป็นการโพสต์ก่อนที่ตนจะเดินทางมาถึงบึงกาฬ ไม่คิดว่าในประเทศไทยเราจะมีเยาวชนรุ่นใหม่ที่มี Amazing ซึ่งตนก็มีกำลังใจและมั่นใจเลยว่าน้องเป็นคนดีเป็นคนซื่อสัตย์ เชื่อว่าในประเทศไทยเราจะมีน้องที่ดีอย่างน้องสไปรท์นี่อีก แต่ว่าอาจจะไม่มีใครเจอเหตุการณ์อย่างตน แต่ยืนยันว่าน้องสไปรท์เป็นคนดีศรีบึงกาฬและปลาบปลื้มยินดีและก็ดีใจยิ่งกว่าได้เงินคืน เมื่อรู้ว่ามีน้องเยาวชนรุ่นใหม่ของเรามีน้ำใจดีแบบนี้และวันนี้ได้มอบสินน้ำใจให้น้อง จำนวน 5,000 บาท และให้สัญญาว่าในอนาคตห่างน้องมีปัญหาติดขัดเรื่องเงินเรื่องค่าใช้จ่ายยินดีที่จะช่วยเหลือเสมอ และฝากขอบคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียนบึงกาฬ และก็ท่าน ผอ.เขตและรอง เขต.สพม.ที่มาเป็นสักขีพยานในวันนี้ด้วย.