วันพุธที่ 22 ธันวาคม 2565 นายสุพจน์  ยศสิงห์คำผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ครั้งที่ 1ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖6 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอท่าช้าง (หลังใหม่) ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี โดย นายปัทพงศ์  สารบรรณ์ เกษตรจังหวัดสิงห์บุรี ข้าราชการ และพนักงาน ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสิงห์บุรี ดำเนินการจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ฯ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้บริการแก่เกษตรกร  ในการแก้ไขปัญหาด้านการผลิตทางการเกษตรได้อย่างรวดเร็วสอดคล้องกับพื้นที่และความต้องการของเกษตรกร  ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ  หน่วยงานส่งเสริม  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนา ฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถทำการผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีนายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอท่าช้าง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรีเข้าร่วมพิธี

  ภายในงานจัดให้มีบริการคลินิกหลักประกอบด้วยคลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี/กฎหมาย คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ และคลินิกเสริม จากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ซึ่งเป็นการเข้ามาให้บริการความรู้และแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่เพื่อลดภาระในการเดินทางของเกษตรกรตลอดจนมีการจำหน่ายสินค้าเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เพื่อเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มอาชีพให้มีรายได้ พร้อมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน ในการนี้เกษตรกรผู้เข้าร่วมงานได้รับการบริการองค์ความรู้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทางด้านการเกษตรได้อย่างครบครัน และได้รับการสนับสนุนปัจจัยการผลิตติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอย่างถ้วนหน้า

ต่อจากนั้น นายสุพจน์  ยศสิงห์คำผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีเป็นประธานในพิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวงเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยนายธนยศ นงบาง ปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรี ดำเนินการพิธีมอบกรรมสิทธิ์และไถ่ชีวิตโค-กระบือ ภายใต้โครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ จากการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรทราบว่าเกษตรยากจนจำนวนมากต้องเช่าโค-กระบือ ใช้แรงงานราคาแพง จึงได้มีพระราชดำริให้กรมปศุสัตว์จัดตั้งธนาคารโค-กระบือ ขึ้นในปีพุทธศักราช 2522 โดยปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรีได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคตามกำลังศรัทธา เพื่อนำเงินไปไถ่ชีวิตโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์ และมอบให้เกษตรกรที่ยากจนในจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสิงห์บุรีจะทำสัญญายืมเพื่อการผลิตตามระเบียบของธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริและมอบกรรมสิทธิ์โค-กระบือให้กับเกษตรกรที่อายุสัญญาครบ 3 ปี เป็นกรณีพิเศษเกษตรจำนวน 40 ราย