เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.65) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงผลการปฏิบัติของกองบังคับการกองปราบปราม ในการทลายขบวนการเว็บพนันและเว็บโป๊รายใหญ่ ภายใต้ชื่อ “ปิดฉากโปรแกรมเมอร์ เว็บหนังเถื่อนพันล้าน” โดยพบว่ามีนักแสดงชื่อดัง คือ แยม ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ อดีตนางเอกละครพื้นบ้าน เป็นผู้ร่วมขบวนการ มีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 7,000 ล้านต่อเดือน สามารถยึดของกลางเป็นรถหรู ของแบรนด์เนม และเงินสด รวมกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้ ได้นำของกลางในคดี อาทิ รถยนต์หรูและรถที่ใช้กระทำความผิดจำนวน 13 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม นาฬิกา เงินสด และทรัพย์สินมีค่าที่ตรวจยึดได้มาจัดแสดงประกอบการแถลงข่าว

ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ประกอบด้วยนายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี / นายเชษฐ์ชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี/ และ น.ส.ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ หรือแยม อายุ 40 ปี อดีตนางเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ ชื่อดัง ซึ่งเป็นภรรยาของนายอั้ม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีความผิด 3 ข้อหา ได้แก่

- ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่ายภาพยนตร์ แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก

- ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

- สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

โดยจากการสืบสวนของตำรวจกองปราบนานถึง 2 ปี พบว่า เครือข่ายนี้มีพฤติการณ์ลักลอบเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลโลก ufa24h.net และเว็บไซต์เผยแพร่ภาพยนตร์และการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่ละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงภาพยนตร์ลามกอนาจาร ชื่อ hd.star4k.com ซึ่งพบว่า นายอั้ม เป็นเจ้าของโครงข่ายเว็บไซต์และเป็นโปรแกรมเมอร์เขียนเว็บดังกล่าว

โดยจากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่า น.ส.ธมลพรรณ์ หรือแยม ภรรยานายอั้ม เป็นผู้มีส่วนร่วมกับสามีในการได้รับผลประโยชน์จากการเก็บค่าสมาชิกเว็บไซต์ดังกล่าว โดยมีนายเชษฐ์ชัย ทำหน้าที่ถอนเงินสดแล้วมอบให้กับผู้ต้องหาทั้งสองรายก่อนหน้านี้ โดยในห้วงเดือนเมษายนถึงกันยายน 2565 นายเชษฐ์ชัยได้ถอนเงินออกจากบัญชีม้ากว่า 38 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 400 ล้านบาท แล้วนำไปเก็บไว้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาสามีภรรยาหรือแปลงเป็นทรัพย์สินอื่นๆ

เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วขออนุมัติออกหมายจับและเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นและสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในบ้านพักพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี อีกทั้งยังสามารถตรวจยึดของกลางรวมมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท ประกอบได้ด้วย

รถยนต์ จำนวน 13 คัน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เงินสดไทยและสกุลเงินต่างประเทศ ประมาณ 42 ล้านบาท นาฬิกาหรู จำนวน 8 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 50 ใบ คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง โทรศัพท์เคลื่อนที่ 18 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 44 เล่ม บ้านพักหรู จำนวน 4 หลัง และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหลายรายการ

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การปฏิเสธ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยพยานหลักฐานที่มีอยู่และเส้นทางการเงินหนาแน่นเพียงพอที่จะเอาผิดได้ นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่าเครือข่ายดังกล่าว มีผู้รับเปิดบัญชีม้าอีก 5 ราย ซึ่งได้ดำเนินการออกหมายจับแล้วและอยู่ในระหว่างการจับกุม

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีเงินได้ย้อนหลังของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไม่พบว่ามีแหล่งที่มาของรายได้อื่นที่เพียงพอต่อการซื้อทรัพย์สินที่ตำรวจตรวจยึดได้ หรือประกอบอาชีพอื่นใดที่มีเงินมากพอไปซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ต้องหาได้นำเงินที่ได้จากเว็บพนันไปซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการฟอกเงินที่ผิดกฎหมายให้แปรสภาพกลายเป็นทรัพย์สิน โดยจากนี้จะประสาน ปปง. ให้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกัยการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป

อีกทั้ง จากการตรวจสอบระบบเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบว่ามีบัญชีลูกค้าผู้เล่นการพนันกว่า 40,000 ราย มียอดเงินหมุนเวียนประมาณ 7,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเว็บไซต์พนันบอล พบว่าจดทะเบียนเว็บไซต์เมื่อปี 2562 ส่วนเว็บภาพยนตร์เถื่อนจดทะเบียนเมื่อปี 2559 ซึ่งจากการตรวจสอบ URL เบื้องต้น พบว่า มี Server อยู่ที่ต่างประเทศในลักษณะของ Cloud ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าเป็นลักษณะของการจ้างโปรแกรมเมอร์ต่างชาติมาร่วมเขียนเว็บกับนายอั้มด้วยหรือไม่ โดยหลังจากนี้จะเร่งตรวจสอบขยายผลจับกุมผู้กระทำความผิดในเครือข่ายนี้เพิ่มเติมผ่านเส้นทางการเงินและความเชื่อมโยงกับโครงข่ายอื่น ๆ ที่มีส่วนร่วมกระทำความผิดต่อไป รวมถึงเตรียมประสานกระทรวง DES (ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ในการปิดเว็บไซต์ทั้งสองเว็บนี้