วันนี้(16 ธ.ค. 65) เวลา 13.30 น. ณ บ้านเลขที่ 87 ม.1 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ผู้สื่อข่าวลงไปพื้นที่ ซึ่งมีการบำเพ็ญกุศลศพของ นายธนภัทร ชุมวรฐายี “น้องนัท” อายุ 29 ปี หนุ่มชุมพรที่ประสบอุบัติเหตุที่ จ.ประจวบฯ. และพ่อแม่ได้ร่วมบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยชีวิตคนที่เฝ้ารอการรับบริจาคอวัยวะได้มากถึง 8 ราย พบ คุณแม่ชูจิตร ภัตรมาตร อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ชุมพร และคุณพ่ณรงค์ ชุมวรฐายี อายุ 63 ปี ปัจจุบันเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลรับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร

คุณแม่ชูจิตร ภัตรมาตร อายุ 57 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ชุมพร เปืดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา “ลูกนัธ” ธนภัทร ชุมวรฐายี ได้ประสบอุบัติเหตุเข้ารับการรักษาที่ รพ.บางสะพาน และส่งต่อไปที่ รพ.ประจวบฯ ในเช้าวันอังคารที่ 6 ธ.ค. 65 โดยก่อนออกเดินทาง “น้องนัท” เขาเดินไปหาพ่อแล้วก็ให้ พ่อกอดโดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือการกอดครั้งสุดท้ายจากลูก จนกระทั่งเวลา 9.00 น.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.บางสะพานว่า “ลูกนัท” ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ที่ รพ.บางสะพาน และต้องนำตัวส่งต่อไป รพ.ประจวบฯ. เมื่อไปถึงก็ได้รับแจ้งจากคุณหมอว่า “น้องนัธ ที่โอกาสรอดเพียง 1 % เท่านั้น ให้พ่อ-แม่เตรียมใจรับสภาพ” เราอยากให้ “ลูกนัธ” ไปอย่างสงบ แต่พ่อเขาบอกว่า “ยังงัยก็ต้องสู้ยื้อชีวิต ลูกนัธ ให้ถึงที่สุด” พอดี นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบฯ. ในวันนั้น ซึ่งก็รู้จักท่านเป็นอย่างดีเพราะเคยร่วมงานกับท่านในสมัยที่ท่านมาอยู่ รพ.ปะทิว มาแจ้งให้ทราบว่า “สมองน้องเขาตายแล้ว แต่อวัยวะส่วนอื่นๆของน้องเขายังดีมากๆนะ และยังหนุ่มยังแน่นด้วย” จนกระทั่งวันที่ 12 ธ.ค. 65 “น้องนัธ” ก็มีอาการทรุดตัวลง จนประมาณ 2 ทุ่มคุณหมอก็เรียกพ่อ-แม่เข้าพูดคุยอีกครั้ง เพื่อสอบถามว่า “คุณพ่อ-คุณแม่จะบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดมั๊ย?” ที่แรกพ่อเองก็เข้าใจว่าการบริจาคต้องเอาไปทั้งร่างกายผู้มีความประสงค์บริจาค ทำอย่างไรที่จะช่วยให้เราอธิบายให้คุณพ่อณรงค์ ชุมวรฐายี มีเข้าใจว่า เอาเฉพาะบางส่วนไปเท่านั้น พอรุ่งเช้าซึ่งเราก็เอ่ยชื่อเพื่อบอกลูกว่า “ลูกนัธ พ่อ-แม่จะทำบุญทำกุศลให้ลูกเป็นครั้งสุดท้ายนะ แม้ว่าลูกยังไม่ได้บวชให้พ่อ-แม่ก็ตามนะ ขอให้พ่อเห็นและญาติๆด้วยที่จะบริจาคอวัยวะของลูก แล้วขอให้ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีนะลูก อย่าให้มีอุปสรรคในการสร้างบุญทำกุศลครั้งนี้เลย” พอได้คุยทุกคนในครอบครัวก็เข้าใจไปในทางเดียวกันทั้งหมดและเห็นด้วยจนเรางง เมื่อทุกคนรับรู้และเข้าใจ จึงวิ่งขึ้นไปบอกคุณหมอว่า “เราจะขอบริจาคอวัยวะของ ลูกนัท ให้กับสภากาชาด เพื่อสาธารณะกุศลนะ” จึงเกิดเรื่องราวที่เป็นข่าวขึ้น ที่สำคัญอวัยวะของ “ลูกนัท” ที่บริจาคในครั้งนี้ สามารถข่วยคนได้มากถึง 8 คนนะไม่ใช่ 7 คน เพราะ “หัวใจ” เอาไปก่อนหน้าแล้ว และทุกคนในครอบครัวก็ถือว่า “ลูกนัท” ได้สร้างบุญสร้างกุศลครั้งใหญ่แล้ว

จากที่ข่าวที่ออกมาก่อนกน้านี้ แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นที่ รพ.ประจวบฯ แต่เราภูมิใจที่ “น้องนัท” ธนภัทร ชุมวรฐายี หนุ่มชุมพรเป็นผู้บริจาคอวัยวะช่วยคนได้มากถึง 8 ชีวิต ในวัย 29 ปี เขาได้สร้างตำนานและถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เช่นกัน