เมื่อวันที่ 14 ธันวามคม 2565  นายแพทย์ปฐมพงศ์ ปรุโปร่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า ตามที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานสภาพอากาศ ช่วงวันที่ 12- 21 ธ.ค. 2565 จะมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้เป็นระลอกๆ ทำให้ ภาคอีสาน ภาคเหนือ อากาศยังเย็นในตอนเช้า มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด บางพื้นที่บริเวณยอดภู ยอดดอย โดยเฉพาะช่วงวันที่ 13 - 21 ธ.ค.2565 คาดว่าจะมีอากาศเย็นถึงหนาวในหลายพื้นที่ นั้น  ซึ่งอาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันกับอากาศที่หนาวเย็นลง เชื้อโรคหลายชนิดสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่าย  โรคที่มาพร้อมกับช่วงเวลานี้ ได้แก่ หัด หัด-เยอรมัน สุกใส และอุจจาระร่วง โดยเฉพาะโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม รวมถึงโควิด-19  สาเหตุเกิดจากการรับเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ง่าย เข้าสู่ร่างกายทางจมูก ปากและตา เชื้ออยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยที่ไอ จาม นอกจากนี้เชื้อยังอาจติดอยู่กับภาชนะ ของใช้ หรือพื้นผิวที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โรคนี้แพร่กระจายอย่างกว้างขวางในสถานที่ที่มีคนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้มีอาการไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บหรือแสบคอ อาจมีอาการหนาวสั่นด้วย  สำหรับผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการรุนแรงกว่าคือ มีไข้สูง ปวดศีรษะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย  ผู้ป่วยจะหายจากโรคได้ในเวลา 5-7 วัน ถ้าพักผ่อนเพียงพอ และได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ผู้ป่วยจะหายจากโรคได้ในเวลา 5-7 วัน บางรายอาจเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ คออักเสบ  ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โรคอ้วน โรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด ปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคตับ โรคไต เบาหวาน ฯลฯ รวมทั้งเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ

นายแพทย์ปฐมพงศ์ กล่าวต่อไปว่า  อยากฝากเตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวังโรคต่างๆ ที่มักเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยการ
          1. หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือคลุกคลีกับผู้ป่วย รวมทั้งไม่ใช้สิ่งของรวมกับผู้ป่วย เช่น จาน ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัวฯลฯ   ถ้ามีผู้ป่วยในบ้าน ควรให้ปิดปากด้วยหน้ากากอนามัย เวลาไอ หรือจาม  
               2. ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ
               3. ช่วงนี้ยังมีการระบาดของโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนแออัดอากาศถ่ายเทไม่สะดวก
               4. หมั่นดูแลรักษาสุขภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคในร่างกายต่ำลง และติดเชื้อได้ง่าย ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น และไม่ใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น      
               5.เมื่อเริ่มมีอาการไข้หวัด ควรนอนพักมากๆ และดื่มน้ำบ่อยๆ ถ้าตัวร้อนมาก กินยาลดไข้ และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตัว หรือถ้าอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีอาการไอมากขึ้น แน่นหน้าอก มีไข้นานเกิน 2 วัน ควรไปพบแพทย์ทันที
               6.หากมีอาการคล้ายโควิด-19 หรือไข้หวัดใหญ่และมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วย ควรไปพบแพทย์ทันที 

อย่างไรก็ตามเพื่อป้องกันตนเองจากโรคและภัยสุขภาพต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงอากาศหนาว จึงขอแนะนำให้ประชาชนเตรียมพร้อมใน 5 สิ่ง ได้แก่ เตรียมเสื้อผ้าและผ้าห่มกันหนาว เตรียมยารักษาโรคเรื้อรังที่จำเป็น เตรียมของใช้ที่จำเป็นสำหรับตนเองและครอบครัว เตรียมฟังข้อมูลข่าวสาร เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และเตรียมตัว โดยเฉพาะในประชากรกลุ่มเสี่ยง ควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19  ให้ครบ 4 เข็ม และรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทุกปี และการปฏิบัติตนให้เป็นนิสัยได้แก่ "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย” ก็จะช่วยลดการติดต่อของโรคต่างๆได้อย่างมาก