หลายหน่วยงาน จ.ประจวบฯ เข้าช่วยเหลือ "ด.ญ.เสาวลักษณ์" ฐานะยากจน ได้เรียนหนังสือตามเกณฑ์
10 มิ.ย. 2562, 19:50
วันที่ 10 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุวิทย์ พุกกะเวส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้ นายธนู มณฑาทอง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบฯ นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอำเภอฝ่ายงานปกครอง ร่วมกับ นายไพศาล แต้มช่วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร้อยตรีโกวิทย์ สุขคำ หัวหน้าชุดรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่เมืองประจวบคีรีขันธ์ (คสช.) สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจ สภ.เมืองประจวบฯ นำนักสังคมสงเคราะห์ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่สมัชชาสุขภาพจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และศึกษาธิการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจเยี่ยมสภาพชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง และไข่ไก่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และให้กำลังใจครอบครัวของ เด็กหญิงเสาวลักษณ์ ทองไกรทิพย์ อายุ 14 ปี ซึ่งทางบ้านมีฐานะยากจนทำให้ไม่ได้เข้ารับการศึกษาตามเกณฑ์ตั้งแต่วัยเยาว์ โดยได้มีการสร้างเพิงพักอาศัยไม่มีเลขที่ลักษณะหลังคามุงสังกะสี ฝาผนังห้องปิดล้อมด้วยแสลนสีดำบนที่ดินของข้าราชการทหารอากาศที่มีใจเมตตาท่านหนึ่ง อนุญาตให้สร้างเพิงพักอาศัยอยู่ชั่วคราวกับ นางสาวจันทราวดี ทองไกรทิพย์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นมารดา และอยู่ใกล้กับบ้านเลขที่ 68/4 คุ้มน้องนุ่น บ้านหนองบัว หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านของบิดา-มารดา ของพ่อเลี้ยง โดยมีนายมนัส สุขอนุเคราะห์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ และนำพาเข้าเยี่ยมเยียนลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
เด็กหญิงเสาวรักษ์ ทองไกรทิพย์ อายุ 14 ปี เปิดเผยว่า ตนเองอยากเรียนหนังสือแต่ด้วยทางบ้านมีฐานะยากจน ประกอบกับระดับผู้นำในครอบครัวมีปัญหาทำให้ต้องย้ายบ้านเปลี่ยนที่อยู่ไป-มา ไม่มีหลักแหล่งที่แน่ชัดอยู่บ่อยครั้ง จึงไม่ได้เรียนหนังสือตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน และคอยช่วยพ่อ-แม่ ทำงานหาเงินสร้างรายได้ด้วยการเผาถ่าน หาน้ำผึ้งป่า และปลูกผักสวนครัวในบ่อรองขายเพื่อสร้างรายได้มาโดยตลอด แต่ตนเองก็อาศัยครูพักรักจำหัดเขียน หัดอ่านด้วยตัวเองบ้าง ศึกษาค้นคว้าในอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือบ้าง และมีหน่วยงานกาชาดเข้ามาช่วยสอนเพิ่มเติม จึงทำให้พออ่านออกเขียนได้บ้าง
ด้าน นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอำเภอฝ่ายงานปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ทางอำเภอได้รับแจ้งข้อมูลจากภาคีเครือข่าย จึงได้บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบสภาพชีวิตความเป็นอยู่พร้อมหาแนวทางในการช่วยเหลือตามลำดับ เพื่อให้ฐานะชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวเด็กหญิงเสาวรักษ์ ทองไกรทิพย์ พัฒนาดีขึ้น และได้เข้ารับการศึกษาตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ เพื่อผู้ปกครองจะได้ไม่มีความผิด โดยในขณะนี้ได้ให้ผู้ใหญ่บ้านพาไปฝากเรียนที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) แล้ว พร้อมทำบันทึกข้อตกลงกับพ่อ-แม่ ผู้ปกครองของเด็กหญิงเสาวรักษ์ ไว้จำนวน 3 ข้อ ดังนี้ 1.จะต้องอนุญาตให้เด็กหญิงเสาวรักษ์ ทองไกรทิพย์ อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาวไปเรียนหนังสือที่ กศน. อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จนจบการศึกษา 2.หากข้านางสาวจันทราวดี ทองไกรทิพย์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นมารดาในฐานะผู้ปกครองไม่อนุญาต และกีดกันไม่พาเด็กหญิงเสาวรักษ์ไปเรียนหนังสือตามข้อตกลงจะต้องรับผิดและยอมให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ และ 3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ส่งเจ้าหน้าที่มาในวันนี้จะนำเรียนผู้บังคับบัญชาตามสายงานของแต่ละหน่วยงาน เพื่อหาแนวทางและให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น ที่อยู่อาศัย ทุนการศึกษาสำหรับบุตร และส่งเสริมการประกอบอาชีพ เป็นต้น
นายไพศาล แต้มช่วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของครอบครัวที่มีปัญหามีฐานะยากจนและไม่สามารถส่งบุตร-หลาน เข้าเรียนหนังสือตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ สามารถไปติดต่อขอปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานศึกษาธิการจังหวัดประจวบฯ อบต.ของแต่ละพื้นที่ หรือ มาที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอให้ช่วยประสานงานนำพาบุตร-หลานไปฝากเรียนฟรี ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 หรือโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เพชรบุรีได้ หรือจะพาบุตรหลานของตนเองไปติดต่อขอเรียนที่โรงเรียนด้วยตนเองก็ได้เช่นกัน ซึ่งหากผู้ปกครองคนใดที่กีดกัน และห้ามไม่ให้บุตร-หลาน ของตนเองไปเรียนหนังสือตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับจะมีความผิดตามกฎหมาย