ชป.เร่งระบายน้ำ "ชี-มูล" ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง อ.แก่งสะพือ จ.อุบลฯ
25 ก.ย. 2562, 13:16
วันนี้ ( 25ก.ย.62 ) ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำขี-มูล (ส่วนหน้า) จังหวัดอุบลราชธานี โดย นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน(ด้านบำรุงรักษา) พร้อมด้วยนายศุภณัฐ ปริยชาติ ผู้เชี่ยวชาญด้านวางแผน และนายปกรณ์ สุตสุนทร ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกวิทยา ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง(Hydro flow) ณ แก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
จากข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการระบายน้ำออกจากลำน้ำมูลให้เร็วที่สุด นั้น นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศกรรมชลประทาน(ด้านบำรุงรักษา) ในนามของศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำขี-มูล(ส่วนหน้า)จังหวัดอุบลราชธานีเปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง(Hydro flow)จำนวน 2 เครื่อง บริเวณแก่งสะพือ ตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา(24ก.ย.62) แต่เนื่องจากท้องน้ำยกตัวสูงจึงส่งผลให้กระแสน้ำวนกลับการระบายน้ำจึงเป็นไปได้ช้า สำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน จึงพิจารณาหาจุดติดตั้งใหม่ที่เหมาะสม และเพิ่มความยาวของท่อสูบ พร้อมทั้งเสริมเครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งน้ำออกไปยังท้ายน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ต่ำกว่าระดับแม่น้ำมูลถึง 3.80 เมตร อัตราการระบายวันละประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. การระบายดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำทางต้นน้ำลดลงไปด้วยตามลำดับ และหากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเริ่มทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสิ้นเดือนนี้
สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน(25ก.ย.62)ระดับน้ำที่สถานีวัดท่าM7มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,600 ล้าน ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำลดลง 17 เซนติเมตร ส่วนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชีตอนบน มีปริมาณน้ำลดลง ระดับเสมอตลิ่ง สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ และจะเริ่มเก็บกักน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ของระดับเก็บกัก เพื่อไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่บริเวณเขื่อนยโสธรที่ระดับยังคงสูงกว่าตลิ่งอยู่ 40 เซนติเมตร และที่เขื่อนธาตุน้อยระดับน้ำยังคงสูงกว่าตลิ่ง 2 เมตร เนื่องจากมีฝนตกต่อเนีองในช่วงวันที่21-22กันยายน ที่ผ่านมา ส่วนที่บริเวณลำเซบายระดับน้ำลดลงเสมอตลิ่งแล้ว บางพื้นที่สามารถกลับเข้าที่อยู่อาศัยได้แล้ว กรมชลประทาน ได้เข้าฟื้นฟูปรับปรุงทำความสะอาดบ้านเรือน และเครื่องจักรเครื่องมือทางการเกษตรให้แก่ผู้ประสบภัย ตามมาตราการช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป