จากกรณีที่มีผู้ใช้ TikTok ได้โพสต์เหตุการณ์ ผู้เสียหายถูกหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งผู้เสียหายได้วานให้ช่วยกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคาร ธกส.สาขา กาฬสินธุ์ เนื่องจากผู้เสียหายอายุมาก สายตาไม่ดี โดยวานให้ช่วยกดในบัญชีซึ่งมียอด จำนวน 10,775.26 บาท เพื่อนำไปเป็นค่าไถนา และใช้จ่ายภายในครอบครัว แต่หญิงสาวผู้ถูกวานกลับโอนเงินออก 10,750 บาทไปบัญชีอื่น ก่อนหันมาบอกกับผู้เสียหายว่า มีเงินในบัญชีเพียง 25.26 บาทเท่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2565 บริเวณตู้เอทีเอ็ม ด้านหน้าธนาคาร ธกส.สาขา กาฬสินธุ์

 

ต่อมาตาวัย 61 ปี ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุบรรณ บุญเลิศ อายุ 61 ปี 87 หมู่ 1 ต.นาดี อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.สินทร ภูแสงสั่น สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้หญิงสาวคนดังกล่าว เบื้องต้น ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า กรณีดังกล่าว เหตุเกิดวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. ซึ่งเป็นวันหยุดของธนาคาร โดยในวันจันทร์ที่ 28 พ.ย.จะได้ทำหนังสือขอหลักฐานกล้องวงจรปิดและหลักฐานการโอนเงิน จากธนาคาร เนื่องจากยอดเงินที่ถูกถอนออกเป็นจำนวน 10,750 บาท หากเป็นการกดเงินสด ในตู้เอทีเอ็ม จะไม่มีเงินเศษเงินในตู้เอทีเอ็ม จำนวน 50 บาท อย่างแน่นอน จึงคาดว่าน่าจะสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ไม่ยาก

ขณะที่ นายสุบรรณ บุญเลิศ อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมีอาชีพทำงาน และมีอาชีพเสริมคือ ซื้อผักมาดองขาย ซื้อปลามาปิ้งขาย ซื้อเนื้อมาย่างขาย ภายหมู่บ้าน เป็นอาชีพเสริม โดยตนมีนาอยู่ 3 ไร่ และได้เช่าที่นาคนอื่นที่อยู่ติดกัน ทำอีก จำนวน 7 ไร่ รวมเป็น 10 ไร่ โดยตนได้เงินค่าช่วยเหลือชาวนา และประกันรายได้ข้าว จากรัฐบาล ไร่ละ 1,000 บาท เป็นเงินจำนวน 7,000.61 บาท จึงมีความตั้งจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ออกมาเพื่อนำไปจ่ายค่าไถนา จำนวน 5,000 บาท แต่ว่าเงินในบัญชีเดิมมีอยู่ 3,574.65 บาท รวมเงินจากรัฐบาลให้มามีเงินในบัญชีจำนวน 10,775.26 บาท