ค้านประกันตัว!! "ส.ส.นวัธ" ส่งตัวเข้ารับโทษที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ
24 ก.ย. 2562, 20:08
วันที่ 24 ก.ย. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ตลอดทั้งช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัว นายนวัธ เป็นหลักทรัพย์รวม 8 ล้านบาท ต่อศาลจังหวัดขอนแก่น โดยล่าสุดศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว นายนวัธ และมีคำสั่งให้ส่งตัวเข้ารับโทษที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษทันที ทำให้เจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์ได้นำรถยนต์จากเรือนจำกลางขอนแก่น มาทำการควบคุมตัวนายนวัธ จากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาบริเวณชั้น 1 ของศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อส่งเข้าคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษทันที ซึ่งในช่วงของการนำตัว นายนวัธ ส่งไปทำการคุมขังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้มาอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในขั้นตอนของการส่งตัวผู้ต้องขังรายสำคัญ ขณะที่เจ้าหน้าที่ศาลและตำรวจศาล ได้กำหนดพื้นที่ให้สื่อมวลชนอยู่บริเวณประตูทางออกของศาลเท่านั้น โดยห้ามไม่ให้มาอยู่ในจุดที่เบิกตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด พร้อมทั้งห้ามบันทึกภาพในเขตอำนาจศาล หรือตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่า นายนวัธ ได้เดินออกจากห้องควบคุมตัวและขึ้นรถเรือนจำกลางขอนแก่นทันที โดยในช่วงของขบวนรถออกจากศาลจังหวัดขอนแก่นนั้นนายนวัธ ได้นั่งก้มลงเพื่อไม่ให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพ
และทันทีที่ขบวนรถเดินทางมาถึงทัณฑสถานบำบัดพิเศษ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เปิดประตูเข้า-ออก ศาลและอนุญาตให้รถเรือนจำกลางขอนแกนที่นำตัวนายนวัธมานั้นได้ขับเข้าไปภายในเขตคุมขังเพียงคันเดียว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนได้บันทึกภาพเช่นกัน
ทันทีที่มาถึงทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ได้มีการคัดแยก นายนวัธ ไปยังแดนแรกรับทันที โดยให้ทางเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเนื่องจากนายนวัธอยู่ในอาการเครียด
โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2556 มีคนร้ายได้ก่อเหตุสังหาร นายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก หมู่บ้านจอมพล อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 5 คน มี ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญพล อดีต ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.หนองเรือ ขอนแก่น (จำเลยที่ 1) พ.ต.ท.สมจิต แก้วพรม อดีตรองผกก. (ป) สภ.หนองเรือ (จำเลยที่ 2) ประพันธ์ ศรีพิลัย (จำเลยที่ 3) บุญช่วย จูงกลาง (จำเลยที่ 4) และปิยะพงษ์ มีกำปัง (จำเลยที่ 5)
ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2557 พิพากษาลงโทษ พ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต ประพันธ์ จำเลยที่ 3 จำคุก 37 ปี 14 เดือน 30 วัน และยกฟ้อง ด.ต.วิระศักดิ์ จำเลยที่ 1, บุญช่วย จำเลยที่ 4 และปิยะพงษ์ จำเลยที่ 5
ทั้งนี้ ศาลวินิจฉัยว่า พ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 และประพันธ์ จำเลยที่ 3 ได้ลงไปพูดคุยกับ นายสุชาติ ผู้ตาย ก่อนจะได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ร่าง นายสุชาติ อีกหลายนัด เป็นการไตร่ตรองหรือเตรียมการในการที่จะมายิงผู้ตายไว้ก่อนหรือไม่
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การที่จำเลยขับรถมาขวางและลงมาพูดคุยกับผู้ตายก่อน อาจจะไม่ใช่เป็นลักษณะการเตรียมการที่จะมายิงผู้ตายให้ถึงแก่ชีวิตจึงยกประโยชน์ให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญาโดยจำเลยทั้งหมดได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาล
ต่อมา เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2559 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ เป็นให้ลงโทษจำเลยทั้ง 5 คน ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และให้ลงโทษประหารชีวิตทั้งหมด แต่เนื่องจาก ด.ต.วีระศักดิ์ จำเลยที่ 1, ประพันธ์ จำเลยที่ 3, บุญช่วย จำเลยที่ 4 และปิยะพงษ์ จำเลยที่ 5 ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาลจึงลดโทษเป็น 1 ใน 3 เป็นให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต มีเพียง พ.ต.ท.สมจิต จำเลยที่ 2 เท่านั้นที่ศาลตัดสินลงโทษขั้นสูงสุดคือประหารชีวิต ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกา