วันนี้ (24 ก.ย. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณี นายณรงค์ เจริญเพ็ง อายุ 57 ปี ชาวบ้านบ้านหนองไผ่คำ หมู่ 12  ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นอนหมดสติไม่หายใจอยู่ในรถกระบะมาสด้า สีดำ ทะเบียน บม 450 อุดรธานี ขณะเดินทางมาทำธุระที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. สาขา จ.อุดรธานี กับภรรยาและญาติต่อมาเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ 1669 ได้ทำการปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายไปฉีดยาฆ่าหญ้าในนาข้าว และสูดสารพิษเข้าไปจึงทำให้เสียชีวิต

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังท้ายหมู่บ้าน บ้านหนองไผ่คำ หมู่ 12  ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นางจินดา เจริญเพ็ง ภรรยาของ นายณรงค์ผู้ตาย และมีการนำศพของ นายณรงค์ เจริญเพ็ง มาบำเพ็ญกุศลที่นี่ โดยมีญาติๆ ในหมู่บ้านหนองไผ่คำ ทราบข่าวพากันเดินทางมาร่วมงานแสดงความเสียใจกับครอบครัว นายณรงค์ โดยญาติๆ ได้พากันดูถังพลาสติกที่บรรจุน้ำหมักชีวภาพที่ผู้ตายหมักเอาไว้ฉีดบำรุงต้นข้าวให้ดู โดยภายในถังมีเศษหน่อไม้ เศษต้นกล้วย ใบไม้และอื่นๆ ซึ่งถือเป็นน้ำหมักชีวภาพทั่วๆ ไป ที่ชาวนานิยมใช้อยู่แทนปุ๋ยเคมี โดยผู้ตายไม่ได้นำยาฆ่าหญ้าที่มีสารพิษอันตรายมาฉีดในนาข้าวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หญ้าในนาข้าวหรือสูดสารพิษเข้าไปจึงทำให้เสียชีวิต

นางไหม พรหมญารี อายุ 57 ปี  ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าของ นายณรงค์ ผู้ตาย เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวว่าผู้ตายไปฉีดยาฆ่าหญ้าในนาข้าวแล้วอาจจะสูดดมสารพิษยาฆ่าหญ้าแล้วทำให้แน่นหน้าอกช็อกหมดสติต่อมาเสียชีวิตนั้น ไม่น่าจะจริง แต่ที่เห็นประจำคือน้องเขยจะใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่นในนาข้าวแบบนี้เป็นประจำทุกปี ไม่เห็นเป็นอะไร ไม่ใช่นำยาฆ่าหญ้ามาฉีดในนาข้าว เพราะปกติผู้ตายเลี้ยงควายเอาไว้ก็ตัดหญ้าให้ควายกินทุกเช้าเย็น ส่วนสาเหตุที่คาดว่าทำให้เสียชีวิต น่าจะเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะน้องเขยเป็นคนขยันมาก หลังจากกลับมาจากเมืองนอกเมื่อหลายปีก่อนก็มาทำไร่ทำนา เลี้ยงควายที่บ้านภรรยา ถือเป็นคนขยันตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งตีสอง ขยันเกินจนบางครั้งยังเคยลุกขุดดินทำคันแทนาตั้งแต่ตี 1 ก็ยังมี