วันที่ 1 พ.ย. 65 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศมีความเชื่อมั่น เดินหน้าขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้าน รองรับการลงทุนใหม่ๆในอนาคต ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้วางแนวทาง และแผนงาน เพื่อต่อยอดขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ตามหลักการ “ทำให้สำเร็จ” (GET THINGS DONE) เพื่อความพร้อมในการรองรับการเป็นฐานและศูนย์กลาง (Hub) การค้า การลงทุน และการผลิตในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ จากข้อมูลการส่งเสริมการลงทุนล่าสุด ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อนุมัติให้การส่งเสริมในกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 26 โครงการ (จาก 17 บริษัท) มูลค่าเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน) รวม 80,208 ล้านบาท จำนวนกำลังการผลิตยานยนต์ที่ได้รับอนุมัติเป็นจำนวน 838,775 คัน ทั้งนี้ BOI ได้ออกบัตรส่งเสริมแล้วจำนวน 16 โครงการ และแบรนด์ที่ผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว 11 แบรนด์ นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต ได้ลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าระหว่าง กรมสรรพสามิตกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและผู้นำเข้ายานยนต์ไฟฟ้า แล้วรวม 10 ราย (ข้อมูล  ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2565) แบ่งเป็น (1) รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน จำนวน 6 ราย  (2) รถยนต์กระบะ จำนวน 2 ราย และ (3) รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 ราย ตอกย้ำความสำเร็จของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของภูมิภาค

นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมใหม่ที่มีการลงทุนในประเทศไทย อาทิเช่น กิจการผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Services) ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้อนุมัติให้การส่งเสริม (ขยายกิจการ) โดยมีบริษัท Amazon.com ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ผ่านบริษัท Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Amazon Data Services ซึ่งได้ประกาศแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทย ผ่านการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในกิจการ Data Center ตอกย้ำความสำเร็จของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านดิจิทัล และดาต้าเซนเตอร์ของภูมิภาค โดยจะมีการพัฒนา Data Center จำนวน 3 แห่ง (พื้นที่ให้บริการรวม 12,822 ตร.ม.) มูลค่าเงินลงทุนรวม 24,810 ล้านบาท ซึ่งมีแผนจะเริ่มให้บริการได้ประมาณเดือนสิงหาคม 2567