วันนี้ 29 ต.ค.65. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ1. ,พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน รอง ผบช.ภ.1. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กวดขันจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับทรัพย์และดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ก่อนเทศกาลวันลอยกระทง ซึ่งได้มีผู้กระทำผิดได้ก่อเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ในหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ 

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล  ผบก.ภ.จว.สระบุรี  พร้อมด้วย พ.ต.อ เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี  ได้สนองนโยบายตำรวจภูธรภาค 1 โดยสั่งการให้ ผู้กำกับทุกพื้นที่ ออกเร่งกวาดล้างจับกุมมิจฉาชีพที่ประทุษร้ายต่อทรัพย์สินประชาชนก่อนเทศกาลวันลอยกระทง โดยขณะนี้ได้มีคนร้ายออกลาดตะเวนชิงทรัพย์ประชาชนในเขตพื้นที่ สภ.เมืองสระบุรี และ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี  จึงได้ให้ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับ สภ.เมืองสระบุรี และ สภ.แก่งคอย ออกทำการสืบสวนเร่งล่าคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าว ให้ได้โดยเร็วที่สุด จนสามารถจับกุมตัวผู้คนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ทั้ง 3 เหตุ ได้ พร้อมกับของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายให้การรับสารภาพทั้งหมด 

 พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล  ผบก.ภ.จว.สระบุรี    ได้ทำการแถลงข่าว จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ต.ค.65. เวลา 20.30 น.  ได้มีคนร้าย รูปร่างผมสูง สวมหมวกกันน็อคสีดำเต็มใบ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ ใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีน้ำเงิน ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์  นาง ปาริชาติ สบี อายุ 45 ปี  เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ของรพ.สระบุรี แล้วหลบหนีไป ได้ทรัพย์ กระเป๋า 1 ใบ มีเงินอยู่ 500 บาท เอกสารต่างๆ โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ oppo สีน้ำเงิน 1 เครื่อง พร้อมกุญแจรถจยย.เอาไปด้วย เหตุเกิดที่บริเวณ ลานจอดรถจยย.รพ.สระบุรี ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ต.ค.65. เวลา 20.30 น.  ได้มีคนร้าย รูปร่างผอมสูง สวมหมวกกันน็อคสีขาวเต็มใบ สวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเข้ม ใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีน้ำเงิน ทะเบียน 5720 สระบุรี จำตัวอักษรไม่ได้ ได้จอดรถจยย.ที่ด้านของรถยนต์ผู้เสียหาย ทำท่ามาสอบถามหาทางกับผู้เสียหาย จากนั้นใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ นาง อัมพร ขลิบเงิน อายุ 59 ปี ที่.อ.แก่งคอย จ.สระบุรี แล้วหลบหนีไปพร้อมทรัพย์เช่น กระเป๋าถือ 1 ใบ เงินสด 7000 บาทเศษ บัตรเอทีเอ็มและเอกสารต่างๆ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าตลาดตาลทอง ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  

ต่อมาภายในเดือนเดียวกัน เมื่อวันที่ 25 ต.ค.65. เวลา 08.10 น. ได้มีคนร้าย รูปร่างผอมสูง สวม  หมวกกันน็อคสีดำเต็มใบ สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเข้ม ใช้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีน้ำเงิน ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ได้พยายามใช้คันร่มเกี่ยวที่คอของผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายได้ทำการ  ต่อสู้และถีบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายล้มลง จากนั้นได้หลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณ ถนนสายผึ้งรวง (แพะ  โคก-ท่าวัว) หมู่ 3 ต.ผึ้งรวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี 

พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ,  พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงศ์สิริ ผกก.สภ.แก่งคอย , พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี  ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจาก กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ร่วมกับ สภ.เมืองสระบุรี และ สภ.แก่งคอย ออกทำการสืบสวนเร่งล่าคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่ดังกล่าว ให้ได้โดยเร็วที่สุด  จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.  65. ขณะชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนหาข่าวดังกล่าว ได้พบผู้ต้องสงสัยขี่รถจยย. ตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ได้นำตัวมาสอบปากคำที่สภ.เมืองสระบุรี ทราบชื่อ นายมีโชค หรือโจ้ เรือนคง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 2 ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี  ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุดังกล่าวในพื้นที่ทั้ง 3 เหตุจริง โดยก่อเหตุเพียงคนเดียว จึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ชุดสืบสวน ไปที่บ้านของตัวเอง เพื่อไปเอาของกลาง เป็น รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน-ดำ เขทะเบียน 1 กฆ 5720 สระบุรี ที่ใช้ก่อเหตุ  , มีดปลอกผลไม้ ที่ใช้ก่อเหตุ ยาว 15.5 ซม จำนวน 1 เล่ม ,เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ 1 ตัว , กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว ,หมวกกันน็อคแบบเต็มใบ สีดำ-ส้ม 1 ใบ  

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้นำตัว นาย มีโชค  เรือนคง (ผู้ก่อเหตุ) ส่งให้กับร้อยเวร สภ.เมืองสระบุรี  เพื่อให้ดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธ ตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล  ผบก.ภ.จว.สระบุรี    กล่าวว่า ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจ ให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.สระบุรี , สภ.เมืองสระบุรี ,สภ.แก่งคอย ที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ เราก็ต้องทำงานแบบนี้ให้หนักขึ้นเพื่อความสงบสุขของพี่น้องชาวจังหวัดสระบุรี เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและมีอาวุธ   และขอขอบคุณที่น้องประชาชนที่ติดกล้องวงจรปิดไว้ตามบ้านพัก อันนี้ช่วยได้มาก จนพบว่าผู้ต้องหารายนี้ใช้รถจยย.ซึ่งเป็นของกลางที่เราตามหายึดได้ ปรากฏว่าตรงกัน ทำให้พยานหลักฐานแน่หนา จึงได้ติดตามตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำ และรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และมีพยานผู้เสียหายชี้ยืนยัน หลังจากนั้นเราได้ทำการตรวจค้นบ้านพักปรากฏว่า ได้ของกลางตามที่เราเห็น ได้ทั้งรถจยย. เสื้อผ้า มีด หมวกกันน็อค ในวันที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ แม้ว่าคดีนี้ทรัพย์ที่คนร้ายได้ไปจะไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นคดีที่อุกอาจ ก่อเหตุในพื้นที่สาธารณะ อย่างนี้ถ้าเราจับไม่ได้ มันก็จะก่อเหตุไปเรื่อย ก็สามารถปิดคดีชิงทรัพย์ในพื้นที่เราไปได้และคิดว่าคดีเกี่ยวกับชิงทรัพย์ก็น่าจะลดน้อยลงไป 

 อยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังที่ประชาชนในพื้นที่ว่า ใครที่ถูกก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ คนร้ายคนเดียว ก่อเหตุ สวมเสื้อคลุมสีดำ หมวกกันน็อคสีดำ ใช้รถจยย.สีน้ำเงิน ประกบและก็ถีบรถล้มบ้าง ใช้อาวุธมีดจี้และเอาทรัพย์ไป ก็ขอให้เข้าแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ หรือประสานมาที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรีโดยตรง เพื่อจะได้ดำเนินคดี เพราะทำผิดแบบนี้ต้องได้รับโทษตามที่เขากระทำ //