ไทยพบ "ผู้ป่วยฝีดาษลิง" รายที่ 11 เป็นชายไทยเดินทางกลับมาจากประเทศกาตาร์
17 ต.ค. 2565, 14:37
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยวันนี้ (17 ต.ค. 2565) ว่าได้รับรายงานพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงรายใหม่ เป็นชายชาวไทย อายุ 40 ปี ไปประกอบอาชีพให้บริการนวดที่ประเทศกาตาร์
แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นเข้าข่ายผู้ป่วยฝีดาษลิง จึงประสานส่งตัวมารักษาที่สถาบันบำราศนาดูร ผลทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อไวรัสฝีดาษลิง ถือเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 11 ของไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยฝีดาษลิงยืนยันของไทยรักษาหายแล้ว 10 ราย และรายล่าสุดอยู่ระหว่างการรักษาและติดตามอาการ
จากการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยันจนครบกำหนด 21 วันแล้ว รวมจำนวน 59 คน ไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติม และได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ ผลตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และอยู่ระหว่างการติดตามอาการผู้สัมผัส 10 ราย
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกโรงพยาบาลเตรียมพร้อมกรณีที่พบผู้สงสัยติดเชื้อหรือผู้มีอาการเข้าข่าย ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจยืนยัน รวมถึงห้องแยกกักกันโรคจนกว่าผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการจะออก เพื่อการป้องกันการแพร่ของเชื้อ และเน้นย้ำว่าประชาชนสามารถป้องกันตนเองจากโรคฝีดาษลิงได้ โดยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ที่มีอาการไข้ มีผื่น ตุ่มน้ำ ตุ่มหนองบริเวณร่างกาย งดการมีเพศสัมพันธ์หรือสัมผัสใกล้ชิดคนแปลกหน้าหรือไม่รู้ประวัติมาก่อน สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ใกล้ชิดผู้อื่น หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาด เลี่ยงการไปสถานที่แออัดหรือเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดโรคฝีดาษลิง
หากมีอาการสงสัย เช่น มีผื่นตามลำตัว เป็นตุ่มนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ตุ่มตกสะเก็ด หลังจากมีไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต สามารถเข้ารับการตรวจเชื้อได้ที่โรงพยาบาลที่ใกล้บ้านท่านได้ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ต.ค. 2565) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง ยืนยัน จำนวน 72,198 ราย พบใน 109 ประเทศ โดยพื้นที่การแพร่ระบาดส่วนใหญ่พบอยู่ในแถบทวีปยุโรป ประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 26,594 ราย, บราซิล 8,461 ราย, สเปน 7,239 ราย, ฝรั่งเศส 4,043 ราย และสหราชอาณาจักร 3,654 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย จากประเทศไนจีเรีย 7 ราย, กานา 4 ราย, บราซิล 5 ราย, สเปน 2 ราย, แคเมอรูน 2 ราย, สหรัฐอเมริกา 2 ราย, เบลเยียม 1 ราย, เอกวาดอร์ 1 ราย, อินเดีย 1 ราย, ซูดาน 1 ราย, คิวบา 1 ราย และเช็กเกีย 1 ราย