เชิญชวน ! ปชช. แวะกราบไหว้พระมหาธาตุเจดีย์ หลวงพ่อแก้วประทานพร หลวงพ่อรวยเกจิดัง แห่งวัดเชิงเขา จ.สระบุรี
10 ต.ค. 2565, 05:37
พระปลัดนิวัฒน์ อกิญฺจโน (เจ้าคณะตำบลปากข้าวและเจ้าอาวาสวัดเชิงเขา) ประวัติย่อ ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ณ วัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเลขาส่วนตัวคอยปรนนิบัติดูแลหลวงพ่อรวย จนมีเหตุจำเป็นเนื่องจากต้องดูแลโยมมารดา จึงย้ายมาสังกัดวัดเชิงเขา จนพ.ศ.2552 ได้รับตราตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส จนถึง วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2557 ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงเขาในวัย 46 ปี 15 พรรษา (องค์ที่12ปัจจุบัน) และใน พ.ศ.2559 ได้รับตราตั้งพระปลัด ในฐานานุกรมพระมงคลสิทธาจารย์(หลวงพ่อรวยปาสาทิโก) ต่อมา พ.ศ.2560 ได้รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลปากข้าวสาร นับเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำป่าสัก และเป็นศิษย์เอกของพระมงคลสิทธาจารย์ (หลวงพ่อรวยปาสาทิโก) แห่ง วัดตะโก ต.ดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา มักได้รับอาราธนานิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องวัตถุมงคลในจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความเชี่ยวชาญทั้งงานการพัฒนาและพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งได้รับถ่ายทอดพระคาถาอาคมวิชาต่างๆจากหลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก มาจนหมดสิ้น พระปลัดนิวัฒน์ ยังเป็นพระนักพัฒนา ที่เล็งเห็นความสำคัญในวัดเชิงเขา พร้อมยังส่งเสริมให้ประชาชนประกอบสัมมาอาชีพ โดยการดำเนินกิจการต่างๆทั้งภายในวัดและชุมชน
วัดเชิงเขาตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ เดิมชื่อว่า ‘’วัดตีนเขา’’ ก่อตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ.2483 สังกัดคณะสงฆ์พระ มหานิกาย เดิมตั้งอยู่บ้านตีนเขา ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี ต่อมาทางราชการขอเวนคืนที่ดินเพื่อประโยชน์ของทาง ราชการ จึงย้ายมาอยู่ ณ บ้านเขาดิน ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2508 แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น ‘’วัด เชิงเขา’’ (จนถึงปัจจุบัน) ทางชาวบ้านขอเปิดโรงเรียนขึ้นที่วัดด้วยชื่อ ‘’ โรงเรียนวัดเชิงเขา ‘’
ต่อมา พระปลัดนิวัฒน์ (เจ้าอาวาสวัดเชิงเขา) ได้ประชุมหารือกับคณะกรรมการวัด เพื่อจะสร้างวัดเชิงเขาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและกราบไหว้สักการะหลวงพ่อแก้วประทานพร หลวงพ่อรวย และบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด จึงได้ดำริสร้างความโดดเด่นที่เป็นไฮไลต์ของวัดก็คือ พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก หรือ พระธาตุเชิงเขา ที่สวยสดงดงาม เหลืองทองอร่าม ยิ่งใหญ่อลังการ อยู่บนภูเขาที่มีความสูงถึง 5 ชั้น มีจุดชมวิวบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามทั้ง 4 ทิศ พร้อมแบ่งเป็นโซนชั้น ชั้นล่างสุดเป็นถ้ำหินย้อยและพญานาคที่สวยสดงดงาม ชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อรวย ด้านหน้ามีพระพุทธรูปหลวงพ่อสองพี่น้อง ด้านหลังมีหินเก่าพิงกันอยู่กว่า 100 ปี ชั้นที่ 3 เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ชั้น 4 เป็นลานของพระมหาธาตุเป็นองค์เจดีย์ ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อแก้วประทานพร ขนาดหน้าตัก 9 เมตร สูง 15 เมตร เนื้อทองเหลือง และหน้าเจดีย์ยังมีกระถางธูปรูปไก่ หน้าทางขึ้นพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก มี วิหารหลวงพ่อรวย สูง 8.35 กว้าง 7 เมตร และยังมีต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่รับมอบมาจากประเทศศรีลังกา นำมาปลูกไว้เพื่อเป็นสิริมงคลภายในวัด ถัดมามีศาลาหกเหลี่ยมของหลวงพ่อเหลือ หรือ พระสังกัจจายน์ ด้านล่างสุดก่อนภูเขามี ศาลเจ้าพ่อห่มเขียวและเจ้าแม่แตงอ่อน หรือเรียกว่า ศาลตายาย ที่มีอายุนับ 100 ปี ซึ่งมีประชาชนชอบมากราบไหว้ขอพรขอโชคลาภ พอเข้าวัดต้องมากราบไหว้หลวงพ่อรวยและหลวงพ่อแก้วประทานพร ซึ่งเป็นองค์จำลอง ก่อนจะขึ้นไปชมพระมหาธาตุเจดีย์และชมวิวอันสวยสดงดงาม
พระปลัดนิวัฒน์ (เจ้าอาวาสวัดเชิงเขา) จึงได้เข้ากราบหลวงพ่อรวยและขออนุญาตก่อสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก (พระธาตุเชิงเขา) โดยใช้นามฉายาของท่านมาเป็นชื่อ หลวงพ่อรวยได้เมตตาเป็นประธานและมอบปัจจัยจำนวน 10 ล้านบาท สมทบทุนการก่อสร้างซึ่งอาจกล่าวได้ว่า ‘’ พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก ’’ นับเป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งกลางใจเมืองของจังหวัดสระบุรี และยังมีสิทยานุสิท ประชาชน ได้ช่วยกันร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อสมทบทุนก่อสร้างในครั้งนี้ อีกทั้งได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อรวย ให้สร้างวัตถุมงคล โดยให้ใช้ชื่อ ‘’ หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก ‘’ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ยังปลุกเสกให้อีกหลายๆรุ่น ด้วยชื่อที่เป็นมงคลของหลวงพ่อรวย เชื่อกันว่าใครที่ได้ทำบุญหรือบูชาวัตถุมงคลของท่าน ชีวิตมีแต่รวยขึ้นในทางที่ดีเสมอไป ส่งผลให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อรวยที่ออกในนามวัดเชิงเขา ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมั่นใจในพุทธคุณความศักดิ์ทางเมตตาหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัยที่หลวงพ่อรวยท่านประจุพระคาถาอาคมไว้ ทำให้ประชาชนต่างหลั่งไหลมาจองกันอย่างมากมาย ส่วนรายได้ทั้งหมดทางวัดได้นำไปสมทบทุนสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโกและอื่นๆ
ซึ่งขณะนี้พระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก ได้ก่อสร้างเสร็จไปแล้วประมาณ 90 % และจะเปิดให้ประชาชนได้ท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโกและอื่นๆ ในวันที่ 20 มกราคม 2566 ซึ่งตรงกับวันที่วัดเชิงเขาได้จัดงานประจำปีที่ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยมีขบวนช้าง,ม้า นำพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญ (ไหปลาร้า) ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ขึ้นสู่ยอดพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก พร้อมรอยพระบาทจำลองไปไว้ในพระมหาธาตุเจดีย์ปาสาทิโก
จึงอยากเชิญชวนประชาชน จ.สระบุรี และจังหวัดใกล้เคียง นักท่องเที่ยวที่ผ่านจ.สระบุรี แวะมาชมความสวยงามอลังกาลภายในงานนี้ มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง พร้อมมีห้องสุขาและห้องน้ำ จำนวน 100 กว่าห้อง คอยไว้ให้บริการแก่ประชาชนที่มาเที่ยว
นอกจากนี้ อยากประชาสัมพันธ์ เชิญชวนสิทยานุสิท ประชาชนในเขต จ.สระบุรี และ จังหวัดใกล้เคียง ร่วมทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 ใน วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 07.00น. – 13.00 น. เป็นอันเสร็จพิธี