"ชายวัย 66 ปี" รับจ้างทำงานแทนลูก เคราะห์ร้ายเกิดหน้ามืดจมน้ำดับ
6 ต.ค. 2565, 22:20
วันนี้ 6 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.ภูรี เถียรประภากุล รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจประจำจุดบริการประชาชนตำบลดอนชะเอม ว่าเกิดเหตุมีคนงานตัดหญ้าของชลประทานฯ ผลักตกลงไปในคลองส่งน้ำสายบ้านดอนชะเอม-กำแพงแสน บริเวณร่องน้ำข้างคลองฝั่งซ้ายหมู่ 3 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกาฯ เสียชีวิต คาดว่าหน้ามืดเป็นลม หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง
จากนั้นจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ ร่วมกับมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)ประจำจุดรอรับเหตุอำเภอท่ามะกา ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างผู้ชายสูงอายุ นอนจมอยู่ในคลองส่งน้ำซึ่งน้ำเกือบแห้งมีดินโคลนผสม จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำศพขึ้นมาให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ
เบื้องต้นจากการสอบสวนปากคำนายขจร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี หัวหน้าผู้ควบคุมคนงานทราบชื่อผู้ตายตายนี้ ชื่อนายสุชาติ(ขอสงวนนามสกุล)อายุ 66 ปี เป็นอดีตคนงานชลประทานที่เกษียณอายุไปแล้วนานหลายปี มีภูมิลำเนาพักอาศัยอยู่ที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งนายสุชาติได้มาทำงานตัดหญ้าริมคลองส่งน้ำแทนลูกชายซึ่งติดธุระ ผู้ตายซึ่งรับอาสามาทำงานแทน 1 วัน
ก่อนหน้าพบศพนายขจร ได้สั่งงานให้คนงานแยกย้ายกันเดินใช้เครื่องตัดหญ้าเดินตัดไปตามริมคลองส่งน้ำอยู่นั้น เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชม.นายขจร ได้เดินตรวจงาน และมองทางนายสุชาติ ก็เห็นว่าผู้ตายหายไป จึงเดินค้นหาก็พบว่า นายสุชาติ ผู้ตายนอนคว่ำหน้าปริ่มๆ น้ำอยู่ จึงตะโกนเรียกคนงานให้มาช่วยกันดูก็พบว่า นายขจร เสียชีวิตแล้ว จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจร่วมกับแพทย์และมูลนิธิฯ มาทำการชันสูตรพลิกศพ
เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ไม่พบว่าร่างกายของผู้ตายมีบาดแผล หรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด สอบถามญาติๆ ทราบว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นโรคความดัน เบาหวาน ส่วนสาเหตุการตายเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้ตายกำลังเดินใช้เครื่องตัดหญ้า ผู้ตายอาจจะเป็นลมหน้ามืดผลัดตกลงไปในคลองส่งน้ำขนาดเล็ก ที่มีน้ำอยู่เล็กน้อย ใบหน้าคว่ำอยู่ในน้ำทำให้หายใจไม่ออก ในสภาพช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยที่ไม่มีใครเห็นจึงขาดอากาศหายใจเสียชีวิตดังกล่าว สอบถามลูกและบรรดาญาติไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบร่างให้ญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีทางศาสนาต่อไป