จากที่เกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมถนนหลายสาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ติดตามการเร่งระบายน้ำที่เอ่อล้นท่วมถนนบริเวณถนนบายพาส  ขาออกอำเภอเมืองกาญจนบุรี บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน จากการบูรณาการของอำเภอท่าม่วง เทศบาลตำบลท่าล้อและสำนักชลประทานที่ 13 พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน

วันนี้ 4 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณหมู่ที่ 6 ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลท่าล้อ ได้ปฏิบัติงานควบคุมเครื่องสูบน้ำ ขนาด 16 นิ้ว สูบน้ำที่ไหลมาจากเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี ลงไปยังคลองชลประทาน เพื่อเร่งระบายน้ำที่เอ่อล้นท่วมถนนเส้นบายพาส ขาออกเมืองกาญจนบุรี ระยะทางตั้งแต่เขตเทศบาลตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ถึงเขตเทศบาลตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ให้ปริมาณน้ำลดลงและกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

ทั้งนี้ นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าจากการเร่งระบายน้ำ พร้อมด้วย นายฑรัท เหลืองสะอาด นายอำเภอท่าม่วง นายอดุลย์ เต๊ะแห ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกล สำนักชลประทานที่ 13 นายชัยวัฒน์ ดอกบุก นายกเทศมนตรีตำบลท่าล้อ ให้การต้อนรับและรายงานการปฏิบัติงานให้ทราบ จากการบูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกันทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองรับน้ำลดลงจากเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 รวมทั้งบนพื้นผิวถนน อีกทั้งเครื่องสูบน้ำยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องในการระบายน้ำลงคลองชลประมาณที่ยังรับน้ำได้อีกหากมีฝนตกและปริมาณน้ำสูงขึ้น  สำหรับอัตราการสูบน้ำของเครื่องสูบน้ำขนาด 16 นิ้ว จากสำนักชลประทานที่ 13 สามารถสูบน้ำได้ 3,600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หรือ 1,000 ลิตรต่อวินาที

จากนั้น นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นายฑรัท เหลืองสะอาด นายอำเภอท่าม่วง  ได้ลงพื้นที่บ้านหนามแดง หมู่ที่ 4 ตำบลท่าม่วง อำเภอม่วง จังหวัดกาญจนบุรี  ติดตามการเร่งระบายน้ำ ที่เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เสียหายกว่า 500 หลังคาเรือน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำไหลมาจากพื้นที่อำเภอเมืองและตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จากที่มีฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2565 โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วง โดย นายวรเดช กาญจนอโนทัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าม่วง ได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชน และดำเนินการขุดลอกคลองให้น้ำระบายได้สะดวก  พร้อมประสานกับสำนักชลประทานที่ 13  ในการนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้งและเร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงไปยังคลองไหลเข้าสู่แม่น้ำต่อไป จนสถานการณ์ดีขึ้นและใกล้จะกลับสู่สภาวะปกติ