สั่งเร่งระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง ยกบานประตูระบายน้ำทุกบาน รับน้ำเหนือ
29 ก.ย. 2565, 15:31
วันนี้ ( 29 ก.ย.65 ) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ หลังพายุ "โนรู" เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศไทยที่จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงและภาคเหนือตอนล่าง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกกระจายตัวทั่วประเทศ
ปัจจุบันสถานการณ์ลุ่มน้ำชี-มูล ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำ M7 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 3,737 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น กรมชลประทาน โดยสำนักเครื่องจักรกล และสำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบบไฮโดรโฟล์เพิ่มเติมที่บริเวณแก่งสะพือ อ.พิบูลมังสาหาร จำนวน 9 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ อีก 200 เครื่อง ที่บริเวณสะพานโขงเจียม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำไปแล้วที่บริเวณสะพานพิบูลมังสาหาร 140 เครื่อง เร่งผลักดันน้ำในลำน้ำมูลให้ไหลลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด ส่วนในพื้นที่ตอนบน ได้ยกบานประตูระบายน้ำทุกบานตลอดแนวแม่น้ำชี-มูล เพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น
สำหรับพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบไม่มากนัก กรมชลประทาน ยังคงให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ เร่งสูบระบายออกจากพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ได้กำชับให้นำบทเรียนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2562 มาเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำและการช่วยเหลือประชาชน เพื่อลดผลกระทบโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งเดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์