"รัฐบาล" ให้ความสำคัญสร้างโอกาสให้ผู้พิการ หนุนทุนวิจัย ผลิต "เท้าเทียมไดนามิกส์" คุณภาพสูง ต้นทุนต่ำนำเข้า 5 เท่า
28 ก.ย. 2565, 10:47
วันนี้(28 ก.ย. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเห็นความสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับผู้พิการ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องการให้ผู้พิการทุกคนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ ตลอดจนใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมั่นใจ สามารถนำศักยภาพมาเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศ
นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลโดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้สนับสนุนทุนวิจัยได้ให้ทุนสนับสนุนแก่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ตั้งพรประเสริฐ และทีมวิจัย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในโครงการ "ก้าวใหม่ด้วยวิจัยและนวัตกรรม" ภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยผลิตเท้าเทียมไดนามิกส์นำไปมอบให้กับผู้พิการขาขาดตามโรงพยาบาลกว่า 13 แห่ง จำนวน 67 ขา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการขาขาดให้ดีขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าเท้าเทียมจากต่างประเทศที่มีราคาสูง
นางสาวรัชดา กล่าวต่อไปว่า เท้าเทียมไดนามิกส์ (Dynamic Foot) ถูกพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น มีความยืดหยุ่นสามารถงอเท้าและเก็บพลังงานในเท้าเทียมได้ ทำให้มีแรงส่งขณะเดิน ตัวเท้าทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มีน้ำหนักเบาแข็งแรง ผู้พิการสวมใส่แล้วจะเดินในพื้นที่ขรุขระ ออกกำลังกาย และวิ่งเหยาะๆ ได้เหมือนคนปกติสำหรับผู้พิการขาขาดที่แข็งแรง โดยผู้พิการใช้ระยะเวลาในการปรับตัวประมาณ 2 สัปดาห์ ดีกว่าเท้าเทียม Sach Foot ที่ผู้พิการขาขาดคนไทย 39,647 คน หรือกว่า 95 % ใช้อยู่ ซึ่งมีน้ำหนักมากและไม่มีข้อเท้าทำให้เดินไม่ดี นอกจากนี้ เท้าเทียมไดนามิกส์ ยังมีคุณภาพเทียบเท่ากับต่างประเทศและมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าการนำเข้าถึง 5 เท่า ปัจจุบัน ได้มีการนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ เพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอเข้าอยู่ภายใต้สิทธิการรักษาของรัฐบาล อาทิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ผู้พิการคนไทยสามารถเข้าถึงเท้าเทียมไดนามิกส์คุณภาพสูงได้ ถือเป็นการช่วยผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Recommend News
MOST POPULAR
