เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



คืบหน้า ! แม่ร้องครูสั่ง "ลูกชายวัย 15 ปี" ลุกนั่ง 200 ครั้ง จนเป็นฝีต้องผ่าตัด ล่าสุด ผอ.สพม.มัธยมกาญจน์ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง


30 ส.ค. 2565, 14:04



คืบหน้า ! แม่ร้องครูสั่ง "ลูกชายวัย 15 ปี" ลุกนั่ง 200 ครั้ง จนเป็นฝีต้องผ่าตัด  ล่าสุด ผอ.สพม.มัธยมกาญจน์ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง




วันนี้ 30 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจาก นางเล็ก ณีอู่ทอง อายุ 59 ปี ว่านายนราวิชญ์ ณีอู่ทอง อายุ 15 ปี ลูกชาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังในอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี ถูกครูผู้สอนสั่งลงโทษด้วยการทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง จนลูกชายเกิดอาการกล้ามเนื้อต้นขาอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนจะตรวจพบว่าลูกชายมีฝีขึ้นที่บริเวณขาผับต้นขาซ้าย ต้องผ่าตัดถึงสองครั้งและต้องพักฟื้นนานกว่า 2 เดือน แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษและโรงเรียนต้นสังกัดยังไม่มีการเข้ามาดูแลเยียวยาช่วยเหลือ แถมเมื่อเข้าแจ้งความกับตำรวจคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยนายเล็ก กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังลูกชายเลิกเรียนกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าลุกมีอาการปวดตึงที่ต้นขาทั้งสองข้าง เมื่อสอบถามจึงทราบว่า ลูกชายถูกครูผู้สอน ซึ่งเป็นครูผู้หญิงสั่งลงโทษ เนื่องจากไม่ยอมเข้าเรียน โดยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้ง เมื่อลูกกลับมาบ้านก็คิดว่าไม่เป็นอะไรมาก จึงไปซื้อยานวดมาทาและซื้อยาแก้อักเสบมาให้ลูกกิน แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 7 วัน ลูกชายก็อาการไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจโทรหาครูที่สั่งลงโทษว่าลูกชายอาการไม่ดีขึ้น ครูจึงรับอาสาพาลูกชายไปหาหมอที่คลินิกในอำเภอท่าม่วง สองครั้ง พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น กระทั่งมีการส่งตัวมาตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลเลาขวัญ จึงพบว่าลูกชายมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนต้นขาบวม และมีฝีขึ้นที่บริเวณข้อพับต้นขาซ้าย ต้องทำการผ่าตัด โดยผ่าตัดครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม แต่พบว่ายังคงมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากแผลผ่าตัด จึงต้องทำการผ่าตัดครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา อาการจึงดีขึ้น แต่ลูกชายก็ยังเดินไม่สะดวก ต้องทำแผลทุกวันและยังต้องพักฟื้นต่อเนื่อง รวมจนถึงตอนนี้ ลูกชายต้องหยุดเรียนมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัว ตนเชื่อว่าการที่จู่ๆลูกชาย ซึ่งมีสุขภาพแข็งแรงและเป็นนักกีฬาฟุตบอล เกิดมีอาการป่วย ติดเชื้อและมีฝีขึ้นที่ขาพับต้นขาซ้าย น่าจะเป็นผลมาจากการสั่งลงโทษให้ทำท่าลุก-นั่ง กว่า 200 ครั้ง ซึ่งเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินเหตุจนทำให้ลูกชายต้องเจ็บหนักเช่นนี้ หลังเกิดเหตุ ตนและสามีได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ เพื่อดำเนินคดีกับครูสาวที่สั่งลงโทษลูกชายจนเจ็บหนัก แต่จนถึงขณะนี้ คดีก็ยังไม่คืบหน้า แม้ครูที่สั่งลงโทษจะพยายามเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ก็ยังไม่มีการเยียวยาใดๆ จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยนำเสนอเรื่องราวดังกล่าวให้สังคมได้รับรู้ เพื่อครูคนดังกล่าวจะไม่สามารถไปสั่งลงดทษเด็กนักเรียนคนอื่นแบบนี้ได้อีก

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนมัธยมที่เกิดเหตุ และได้พูดคุยกับนางสาวเสาวณี วงษ์พัฒน์ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วและได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วด้วย โดยจากการตรวจสอบ พบว่าครูที่สั่งลงโทษ คือ นางสาวรัตนากร สงคราม อายุ 31 ปี ส่วนสาเหตุที่สั่งลงโทษด้วยการสั่งให้เด็กทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้งนั้น เป็นเพราะเด็กโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียนในคาบวิชาที่ครูรัตนากรเป็นผู้สอน ซึ่งการลงโทษด้วยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง เป็นการทำโทษตามข้อตกลงระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน เพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียนอีก โดยครูผู้สอนยืนยันว่าสั่งทำโทษเด็กไปจำนวน 150 ครั้ง และให้เพื่อนในห้องเป็นคนนับจำนวนกันเอง ครูผู้สอนยืนยันว่าที่ทำไปเพียงเพื่อเป็นการลงโทษเด็กให้หลาบจำไม่กล้าโดดเรียนอีก ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กบาดเจ็บ อีกทั้ง หลังทราบว่าเด็กมีอาการป่วยติดเชื้อ ก็ได้พาเด็กไปพบหมอที่คลินิกด้วยสงคราม อายุ 31 ปี

ส่วนสาเหตุที่สั่งลงโทษด้วยการสั่งให้เด็กทำท่าลุก-นั่ง จำนวน 200 ครั้งนั้น เป็นเพราะเด็กโดดเรียน ไม่ยอมเข้าเรียนในคาบวิชาที่ครูรัตนากรเป็นผู้สอน ซึ่งการลงโทษด้วยการสั่งให้ทำท่าลุก-นั่ง เป็นการทำโทษตามข้อตกลงระหว่างครูผู้สอนและนักเรียน เพื่อไม่ให้เด็กโดดเรียนอีก โดยครูผู้สอนยืนยันว่าสั่งทำโทษเด็กไปจำนวน 150 ครั้ง และให้เพื่อนในห้องเป็นคนนับจำนวนกันเอง ครูผู้สอนยืนยันว่าที่ทำไปเพียงเพื่อเป็นการลงโทษเด็กให้หลาบจำไม่กล้าโดดเรียนอีก ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เด็กบาดเจ็บ อีกทั้ง หลังทราบว่าเด็กมีอาการป่วยติดเชื้อ ก็ได้พาเด็กไปพบหมอที่คลินิกด้วยตนเอง โดยครูผู้สอนรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ระหว่างที่เด็กพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ครูผู้สอนและผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีการไปติดตามเยี่ยมเยียนอาการของเด็กที่บ้านอย่างสม่ำเสมอ พร้อมประสานครูที่ปรึกษาของเด็กให้ดูแลเรื่องการเรียนและการบ้านของเด็กให้พักเอาไว้ก่อน เพื่อให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าเด็กจะไม่เสียการเรียน พร้อมกันนี้ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า ได้สั่งยกเลิกการลงโทษเด็กโดยการทำท่าลุก-นั่งอย่างเด็ดขาดไปแล้ว เนื่องจากการลงโทษดังกล่าวไม่ได้อยู่ในระเบียบของสถานศึกษาและอาจเสี่ยงทำให้เด็กบาดเจ็บได้

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของคณะกรรมการ พบว่าในวันดังกล่าว นอกจากเด็กชายนราวิชญ์แล้ว ยังมีเด็กคนอื่นที่ถูกสั่งลงโทษด้วยวิธีการเดียวกัน แต่ไม่มีเด็กคนใดที่มีอาการป่วยเหมือนเด็กชายนราวิชญ์ อย่างไรก็ตาม ทางครูผู้สั่งลงโทษและคณะผู้บริการสถานศึกษา ได้มีการพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กชายนราวิชญ์แล้ว แต่ยังไม่สามารถตกลงกันในส่วนของเงินค่าเยียวยาได้ เนื่องจาก ทางพ่อและแม่ของเด็กชายนราวิชญ์ เรียกร้องเงินเยียวยาและเงินค่าขาดรายได้ของผู้ปกครอง ที่ต้องหยุดงานมาดูแลลูก กว่า 2 เดือน รวมเป็นเงินสองแสนห้าหมื่นบาท แม้จะมีการต่อรองกันจนลดลงมาเหลือ 150,000 บาท แต่ทางครูผู้สั่งลงโทษก็ไม่มีเงินพอที่จะเยียวยาได้ในจำนวนดังกล่าว จึงได้มอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้จำนวน 30,000 บาท แต่ทางพ่อแม่ของเด็กยังไม่ยอมรับและยืนยันที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ในส่วนของคดีความนั้น ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเลาขวัญ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าในคดี พบว่า เบื้องต้น พ่อแม่ของเด็กชายนราวิชญ์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณครูผู้สั่งลงโทษ ในความผิดฐาน ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด ดดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ซึ่งขณะนี้ อยู่ในระหว่างให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและเจรจาถึงค่าเยียวยาต่อกัน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบกับ นายอนนัต์ศักดิ์  ภูผลผัน ผู้อำนวยการ สพม.กาญจนบุรี แจ้งว่าได้ทราบเบื้องต้นจาก ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมชื่อดังของอำเภอเลาขวัญ เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นได้ส่ง รอง.ลงไปสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมดูแลนักเรียนว่าอาการเป็นเช่นไร ความหนักเบาเป็นเช่นไร เพราะทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้วางให้มาตรการ กับสถานศึกษาไว้ทั้งหมดแล้วให้ทุกแห่งให้นักเรียนมาเรียนต้องปลอดภัย แล้วมีความสุข เมื่อทราบเรื่องก็ได้สั่งให้ทาง ผอ.โรงเรียนมัธยม ตั้งคณะกรรมการสอบสวนไปแล้ว เพื่อหาข้อเท็จจริงว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และทาง ผอ.โรงเรียนมัธยม ได้รายงานเบื้องต้นเข้ามาแล้ว ตนเองก็ได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา ในเบื้องต้นไปแล้วเช่นกัน

ส่วนการกระทำของครู นั้นตนเองได้กำชับตามระเบียบของทางกระทรวงฯ ไปแล้ว ตนเองก็ได้กำชับ ผอ.โรงเรียนมัธยมเลาขวัญ ไปแล้วให้กำกับดูแลคุณครูไปตามระเบียบกระทรวงฯอย่างเคร่งครัด และการลงโทษนั้นจะต้องไปประชุมร่วมกับทางคณะกรรมการของโรงเรียน พร้อมต้องตรงตามกฎการศึกษา ก่อนออกมาตามระเบียบการลงโทษของสถานศึกษา อีกทั้งต้องอยู่ภายใต้ระเบียบของกระทรวงฯ การให้นักเรียนลุกนั่ง นั้นสามารทำได้ แต่ต้องให้สมควรแก่เหตุ การบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อให้นักเรียนได้เกิดความแข็งแรงต่อร่างกาย สามารถทำได้เมื่อทางสถานศึกษากำหนดขึ้นมาตามข้อตกลงในที่ประชุมของสถานศึกษานั้นๆ ย้ำว่าต้องผ่านคณะกรรมการการศึกษาตามขั้นตอนก่อนเสมอ แต่กรณีนี้ถือว่ากระทำเกินไปไม่ถูกตามระเบียบ

สำหรับการเยียวยา นั้น ต้องแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเมื่อเกิดเหตุแล้วทางด้านวินัย ก็ต้องดำเนินการทางด้านวินัย ส่วนเรื่องการเยียวยาชดใช้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับคู่กรณี คือครู กับผู้ปกครองตกลงกัน ซึ่งทางโรงเรียน หรือ ทาง สพม.กาญจน์ ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือใดๆ ได้เพียงแค่ช่วยไกล่เกลี่ยได้ ไปตัดสินไม่ได้ ต้องให้ความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย จะตกลงกัน แต่ด้านวินัยนั้นได้ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงกันไปตามอำนาจของผู้อำนวยการโรงเรียน

และเบื้องต้นที่ทราบการเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ปกครอง เรียกค่าเสียหายเงินจำนวน สองแสนห้าหมื่นบาท แต่มีการเจรจากันหลายรอบโดยทางผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ทรงคุณวุฒิในพื้นที่ เป็นผู้ไปช่วยไกล่เกลี่ย เรื่องนี้ตัวคุณครูเองแจ้งว่าไม่สามารถชดใช้ให้ได้ตามที่เรียกร้องมา คุณครูไม่มีความสามารถจะช่วยได้ แต่ช่วยได้แค่ สามหมื่นบาทเท่านั้นในเบื้องต้น โดยต้องให้ผู้เสียหาย กับครู ไปตกลงกันเอง และตนเองก็จะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายเพื่อลงไปดูแลปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง แต่เบื้องต้นได้มอบหมายให้รอง ผอ.เขตการศึกษาลงไปก่อนแล้ว ทางสำนักงาน สพม.กาญจน์ จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย อย่างเป็นกลาง ย้ำว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และ หลังจากให้สัมภาษณ์ทาง ผอ.สพม.กาญจน์ ก็ได้ขอตัวเดินทางพร้อมคณะลงไปพื้นที่ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.