จากกรณีสองสามีภรรยาสูงวัย ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์  ป่วยด้วยโรคติดเชื้อ Hiv ในระยะสุดท้าย มีอาการปางตาย และได้ใช้น้ำมันกัญชารักษา จนมีอาการดีขึ้นตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 พ.ค.นพ.ชัยวัฒน์ ทองไหม นพ.สสจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวมีข้อสงสัยกันมากว่า น้ำมันกัญชามีผลในการรักษาได้จริงหรือไม่ที่ทำให้ผู้ป่วย Hiv มีอาการดีขึ้น ซึ่งจากการติดตามและรับข้อมูลจากทีมงานทราบในเบื้องต้นว่า ผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ป่วยด้วยโรค Hiv โดยติดเชื้อมานานกว่า 10 ปีแล้ว และได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วยกับทางเรา เพื่อรับยาต้านไวรัสอยู่ก่อนแล้ว ทำให้สุขภาพดีขึ้น โดยในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยฝ่ายภรรยาได้ท้องเสีย ร่างกายผอมอาการทรุดลงไประยะหนึ่ง แพทย์ได้ทำการรักษาพบว่า มีวัณโรคแทรกเข้ามา จึงให้ยาวัณโรคซึ่งมีผลคือทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ต่อมามีเจ้าหน้าที่พยาบาลในพื้นที่ แต่ไม่ได้สังกัดอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เข้าไปแนะนำหยอดยาน้ำมันกัญชา และผู้ป่วยก็มีอาการดีขึ้น จากเดิมที่ต้องนอนให้คนอื่นช่วยเหลือ ก็สามารถช่วยตัวเองทำกิจวัตรประจำวันได้

นพ.ชัยวัฒน์ กล่าว“ถ้าจะถามว่าน้ำมันกัญชามีส่วนในการรักษาให้ดีขึ้นมั้ย ตรงนี้ไม่ขอฟันธงซะทีเดียว คงต้องทำการรักษา ศึกษาอย่างละเอียดและเฝ้าติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางผู้ป่วยก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และหากผลแสดงชัดว่าน้ำมันกัญชามีส่วนจริงในการรักษาให้ผู้ป่วยดีขึ้นหรือหายขาด ก็ถือเป็นความโชคดีของวงการแพทย์ ในการต่อยอดและศึกษาวิจัยต่อ อย่างไรก็ดีในอีกด้านผู้ป่วยไม่ได้ละทิ้งยาต้านไวรัสและยารักษาวัณโรคที่แพทย์ให้ไป”

นพ.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า น้ำมันกัญชาจะสามารถรักษาผู้ป่วย Hiv ให้หายขาดหรืออาการดีขึ้นได้ แต่เราก็ไม่ปิดกั้นในการรักษา และได้เน้นย้ำไม่ให้ผู้ป่วยละทิ้งยาต้านไวรัสและวัณโรคที่แพทย์ให้ไป พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด และหากผู้ป่วยอาการดีขึ้นเราก็จะขอเจาะเลือดมาพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าน้ำมันกัญชา สามารถรักษาได้ผลจริงหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ต่อไป และในเช้าวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) ตนและทีมงานจะลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเยี่ยมและให้กำลังผู้ป่วย

ขอบคุณ

ข้อมูล : https://www.dailynews.co.th/regional/712029