วันนี้ 19 ส.ค. 2656 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สืบเนื่องมาจาก นายธิติพนธ์ ระลอกแก้ว ผอ.สนง.กศน.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ทางเรามีความยินดีที่จะส่งเสริมการศึกษาให้กับประชาชนผู้ด้อย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปให้ได้ถึงรับโอกาสทางการศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่องและการศึกษาตามอัธยาศัย อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ไปตามสภาพ ปัญหา ความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ไม่เสียค่าใช้จ่ายในเข้าการศึกษา โดยมอบหมายให้ นส.ณธชศมล เซี่ยงว่อง รักษาการ ผอ.กศน.อำเภอทองผาภูมิ และนายอัฐพล กลีบทอง ครูกศน.ตำบลรับผิดชอบ ตำบลปิล๊อก ฐานการขับเคลื่อนการจัดการศึกษา 

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทองผาภูมิ พื้นที่ของตำบลปิล๊อก มีพื้นที่จำกัดเป็นภูเขาส่วนมากจึงไม่มีสถานที่ในการจัดการเรียนการสอน นักศึกษาจึงต้องเดินทางมาเรียน พบกลุ่มที่ศูนย์การศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอทองผาภูมิ โดยนักศึกษา หมู่ที่ 1 บ้านอีต่อง เดินทางมาเรียนด้วยรถโดยสารประจำทางและรถส่วนตัวซึ่งระยะทางนั้นไกลมาก เกรงจะเกิดอันตรายเนื่องจากเป็นภูเขาถนนคดเคี่ยวลาดชันในส่วนของหมู่ที่ 2 บ้านโบอ่อง  หมู่ที่ 3 บ้านใหม่ไร่ป้าและหมู่ที่ 4 บ้านปิล๊อกคี่  ทั้ง 3 หมู่บ้านนี้ เป็นหมู่บ้านดั้งเดิมอยู่เกาะกลางน้ำต้องใช้เรือในการเดินทางพอมาถึงฝั่งก็เดินทางต่อด้วยรถโดยสารประจำทางเพื่อมาเรียนและพบกลุ่มที่ศูนย์การศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยในตัวทองผาภูมิ 

จากปัญหาดังกล่าวจึงเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงการศึกษาของนักศึกษา ประชาชนทั่วไป  ครู กศน.ตำบลปิล๊อก ได้เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้จึงได้จัดเวทีชาวบ้านขึ้นเพื่อต้องการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยตามมติของชาวบ้านต้องการมีศูนย์การเรียนรู้  กศน.ตำบลปิล๊อก บนแพกลางน้ำ สถานที่ตั้งกลางแม่น้ำเขื่อนวชิราลงกรณ วัตถุประสงค์เพื่อใช้สถานที่จัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาและประชาชนในตำบลปิล๊อก เพิ่มโอกาสให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนเพียงหลวง 3( ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี ) และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ ได้รับการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โอกาสให้กับประชาชนที่ด้อยพลาด รวมถึงขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นศูนย์ส่งเสริมฝึกอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนดียิ่งขึ้น

นายอัฐพล กลีบทอง ครูกศน.ตำบลปิล๊อก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการมา5ปี บรรจุที่ กศน.อำเภอทองผาภูมิ รับผิดชอบพื้นที่ตำบลปิล๊อก ปัญหาของการสร้างศูนย์การเรียนของในพื้นที่ซึ่งเป็น อุปสรรค เพราะในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทั้งหมด งบประมาณในการก่อสร้างไม่มี จึงปรึกษาคณะกรรมการ กศน.ตำบลปิล๊อก ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในการสร้างศูนย์การเรียน ว่าให้สร้างแพ1หลัง มีความยาว 20 เมตรกว้าง 10 เมตร ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ให้ชาวบ้านได้เข้าถึงระบบทางการศึกษา ศูนย์การเรียนรู้ ฝึกหัดสร้างอาชีพให้ชุมชน ชาวบ้านส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรม และประมงน้ำจืด

นายอัฐพล กลีบทอง กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำตาออกมาจากทั้งสองข้าง ตนเองรักอาชีพครูถึงแม้เงินเดือนจะเพียงน้อยนิดทนฝ่าอุปสรรค อยู่ในถิ่นทุรกันดารน้ำไม่มี ไฟเข้าไม่ถึง เวลาเข้าพื้นที่นั่งเรืออย่างเดียว ไม่สบายอย่างที่คิด กว่าจะสร้างแพศูนย์การเรียน ต้องใช้เวลาถึง5ปีได้รับการบริจาคจากกลุ่มเพื่อนมาช่วย เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังจากจบการศึกษาสามารถเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น โดยกระทรวงศึกษาธิการ ผู้รับรองคุณนวุฒิการศึกษา ทางเรามีนักศึกษา ทั้งหมด 43 คนแยกเป็นหญิง 30 คนชาย 13 คน คนในพื้นที่ทั้งหมด นักศึกษานั่งเรือมาเรียนกันบนแพทั้งหมด เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่มาเที่ยวชมศูนย์การเรียนรู้ กศน. ตำบลปิล๊อก หรือมาบริจาคอุปกรณ์การเรียนสามารถติดต่อได้ที่ กศน.อำเภอทองผาภูมิ