รัฐบาลรับฟังข้อเสนอป้องกันผลกระทบ จากการพัฒนาอีอีซี ของ กมธ.แก้จนฯวุฒิสภา
14 ส.ค. 2565, 15:41
วันนี้ ( 14 ส.ค.65 ) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อให้เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญและกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการขับเคลื่อน อีอีซี ควบคู่ไปกับการรับฟังข้อเสนอแนะหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาต่าง ๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลได้รับรายงานการพิจารณาการศึกษา พร้อมข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา เรื่องแนวทางการเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อมและสุขภาพในระดับท้องถิ่น กรณีอีอีซี และได้ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) รับเรื่องไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้อเสนอแนะได้ไปสู่การปฏิบัติ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตามรายงานได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์เชิงลบในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่อีอีซี อาทิ การขยายตัวของเมือง การสูญเสียที่ดินทำกิน การเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความเพียงพอของทรัพยากรน้ำ ความกังวลต่อการบริหารจัดการด้านมลพิษ
พร้อมกับมีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ การมีแนวทางจัดการเชิงรุกเน้นผลกระทบล่วงหน้า นำแนวทางการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจเชิงนโยบาย ส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ในการตัดสินใจ ประเมินผลในเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อวิถีชีวิต จูงใจให้ผู้ประกอบการเกิดความรับผิดชอบในมิติต่าง ๆ พัฒนาศักยภาพประชาชนให้สามารถรับกับการเติบโตของพื้นที่ได้
ทั้งนี้ สกพอ. ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องตามที่รัฐบาลมอบหมาย ได้เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งหลายประเด็นสอดคล้องกับแผนงานของ สกพอ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนข้อเสนอแนะที่เพิ่มเติมเข้ามาและเป็นประโยชน์กับคนในพื้นที่จะได้ปรับไปอยู่ในแผนงานต่อไป
“อีอีซีเป็นพื้นที่พัฒนาเชิงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ได้จัดมาตรการส่งเสริมและจูงใจให้เกิดการลงทุนควบคู่ไปกับการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม การสร้างโอกาสให้กับคนในพื้นที่ให้ได้รับประโยชน์จากโครงการพัฒนาต่าง ๆ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอีอีซี ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการติดตามความคืบหน้าทั้งโครงการลงทุน และมาตรการเชิงสังคมที่สำคัญ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว