ครูบาบุญชุ่ม เข้ารักษาอาการอาพาที่ กรุงเทพฯ
11 ส.ค. 2565, 14:10
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลจากประเทศเมียนมาแจ้งมาว่า ครูบาบุญชุ่มข้ามมาไทยเมื่อ 11.30 น. วันที่ 10 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ด้วยอาการอาพาธ เพื่อไปรักษาตัวโรงบาล โดยแหล่งข่าวแจ้งว่าได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ในจังหวัดเชียงรายก่อนจะส่งไปรักษาต่อยังกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
โดยล่าสุดพ.อ.สุทธิ์เขตต์ ศรินิลทิน ผู้บังคับกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา หรือ TBC ได้ให้ข้อมูลว่า คณะลูกศิษย์ของครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ได้ประสานผ่านทาง TBC เมียนมา เพื่อนำครูบาบุญชุ่มไปทำการรักษาในจังหวัดเชียงรายอย่างเร่งด่วน
กรณีการข้ามแดนของครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร เป็นไปตามเกณฑ์ของ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย – เมียนมา หรือ TBC เนื่องจากเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และมีสัญชาติไทยด้วย จึงสามารถร้องขอเพื่อข้ามพรมแดนมาได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตามหลังจากที่ข้ามพรมแดนมาแล้ว คณะลูกศิษย์ของครูบาบุญชุ่ม ได้นำเข้ารักษาอาการอาพาธ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย และมีกระแสข่าวว่าได้มีการส่งต่อเพื่อไปรักษาอาการอาพาธที่กรุงเทพฯ แล้ว
เพจเฟซบุ๊ก “รักเชียงตุง” มีผู้ติดตามกว่า 1.7 แสนราย และมีการโพสต์รายงานเรื่องราวความเคลื่อนไหวของ เกี่ยวกับครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร พระเกจิชื่อดังในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย เมียนมา ลาว ฯลฯ มาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดมีการโพสต์ระบุว่า ครูบาบุญชุ่ม มีอาการอาพาธ ข้ามไปรักษาในประเทศไทยแล้ว
มีรายงานอาการอาพาธครั้งนี้ ว่า ภายหลังมีอาการแปลกๆ ทางลูกศิษย์และแพทย์ได้สันนิษฐานว่า ภายหลังครูบา ปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำมานานกว่า 3 ปี แล้วออกมาจากปฏิบัติธรรมก็ได้รับกิจนิมนต์อย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ไม่ได้พักผ่อนร่างกายอ่อนแอ กระทั่งเริ่มมีอาการแปลกๆ เกี่ยวกับอาการทางสมอง จนหวั่นเกรงว่าจะเป็นมาลาเรียขึ้นสมอง จึงจำเป็นต้องรีบนิมนต์มารักษาอาการอาพาธที่ฝั่งไทย เบื้องต้นแพทย์ฝั่งไทยในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้ทำการเจาะไขสันหลังมาเพาะเชื้อตรวจ ปรากฏว่าไม่พบเชื้อมาลาเรียอย่างที่เป็นกังวลแต่อย่างใด แต่เพื่อความสบายใจและมั่นใจ คณะศิษย์จึงนำตัวครูบาบุญชุ่ม เข้ามารักษาอาการอาพาธและให้ทีมแพทย์ทำการวินิจฉัยอาการอย่างละเอียดอีก ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผย เกรงว่าศิษยานุศิษย์ที่เป็นห่วงจะแห่กันมาแล้วไม่ได้พักผ่อน
มีรายงานจากลูกศิษย์ใกล้ชิดระบุว่า เคยมีอาการลักษณะนี้เกิดขึ้นก่อนเมื่อครั้งที่ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร ออกจากถ้ำเพื่อมาแสดงธรรม หลังทำการปิดวาจา อีกทั้งก่อนหน้านี้ท่านได้ออกแสดงธรรมติดต่อกันเป็นเวลานาน 6-7 ชม.ต่อวัน คาดว่าอาจเกิดความดันในสมอง ประกอบกับในช่วงที่ปวารณาเข้าปฏิบัติธรรมกรรมฐานปิดวาจาภายในถ้ำซึ่งเป็นพื้นที่ปิดอากาศไม่บริสุทธิ์ มีความชื้นออกซิเจนไม่พอ สะสมกันมานาน จนเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการอาพาธ แต่ที่เป็นห่วงคงเป็นเรื่องสมองมากที่สุด แพทย์จึงเน้นวินิจฉัยเกี่ยวกับสมองเป็นพิเศษ เบื้องต้นยังไม่พบอาการรุนแรง และครูบาบุญชุ่ม อยู่ในความดูแลของแพทย์และอาการปลอดภัยแล้ว เพียงอยากให้ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจ