จากกรณีทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงว่าให้ไปเก็บศพผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักพลิกคว่ำชนแบริเออร์ข้างทางบนถนนสายมอเตอร์เวย์ แต่พอไปถึงรถคันดังกล่าวอยู่ที่เก็บของกลาง ทำให้กู้ภัยงงมาก พบว่าผู้เสียชีวิต เป็นชาย อายุ 68 ปี นอนขดตัวอยู่บริเวณเบาะคนขับ ใต้พวงมาลัยรถ  ต่อมาได้เอาศพออกนำไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง เพื่อรอญาติมารับศพ 

โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้เผยว่ากู้ภัยทางหลวงพอรู้ว่าอุบัติเหตุก็ได้ไปที่เกิดเหตุ และได้แจ้งว่าไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสภาพรถที่เก็บของกลาง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นในรถมีศพอยู่ จึงได้แจ้งกู้ภัย ซึ่งกว่าจะมาเจอศพก็มา 13 ชั่วโมงแล้ว  โดยทางกู้ภัยเผยว่าถ้าผู้บาดเจ็บตอนเกิดเหตุยังมีชีวิตอยู่แล้วไม่มีใครช่วยจนทำให้เสียชีวิต ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ทำไมถึงไม่เห็นคนอยู่ในรถ?

ล่าสุด(10ส.ค.65) ตำรวจทางหลวง ที่ไปเจอศพที่ซากได้เผยว่า เป็นความไม่รอบครอบของกู้ภัยทางหลวงที่ไม่ตรวจสอบให้ดี เนื่องจากไปถึงที่เกิดเหตุกู้ภัยทางหลวงแจ้งว่าประตูรถเปิดอยู่ จึงคาดว่าคนเจ็บไปโรงพยาบาล หรือมีพลดีนำส่ง โรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้  และมีถุงลมนิรภัยและเสื้อผ้าปิดอยู่จึงมองไม่เห็นว่ามีศพติดอยู่  และได้ให้รถยกนำรถมาเก็บไว้ที่ลานเก็บรถของกลาง ตำรวจเผยว่าวันนั้นรอมาทั้งวันตอนมืดไม่มีญาติมาติดต่อเรื่องรถ จึงเดินมาตรวจสอบเอกสารของรถ เลยพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณที่นั่งคนขับนั้นเอง