"หลวงพ่อทอง" พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ โดนขโมยไป 2 ครั้งแต่ได้คืน พระครูวิจิตรกาญจนเขต เตรียมจัดงานใหญ่ฉลองที่มาประดิษฐานที่อยู่วัดบ้านด่าน
1 ส.ค. 2565, 15:51
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิหารหลวงพ่อทอง วัดบ้านด่าน ต.สร้างปี่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.ศรีสะเกษ และนายกพุทธสมาคม จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนพร้อมด้วย พระครูวิจิตรกาญจนเขต เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านและเจ้าคณะตำบลสร้างปี่ ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการวัดบ้านด่าน เพื่อเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครบ 90 พรรษา และเฉลิมฉลองหลวงพ่อทองพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มาประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านด่านครบ 70 ปี โดยมี นายนพดล เมืองประทุม ผอ.ร.ร.จินดาวิทยาคาร 2 นายธนกฤต เกตุไชยเลิศ ผอ.ร.ร.ยางชุมน้อยพิทยาคม คณะครูจากโรงเรียนค้อวังวิทยาคม อ.ค้อวัง จ.ยโสธร ร.ร.ส้มป่อยพิทยาเสริม ร.ร.ไผ่งามพิทยาคม ผู้นำชุมชน และปราชญ์ชาวบ้าน มาร่วมประชุม
พระครูวิจิตรกาญจนเขต เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านและเจ้าคณะตำบลสร้างปี่ เปิดเผยว่า กรมศิลปากรยืนยันว่าหลวงพ่อทองเป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยอยุธยา ตรงกับพ่อใหญ่พร ศิริพัฒน์ พ่อใหญ่เฮ้า ปัทมะ พ่อใหญ่สุวิทย์ชาติ ทิพศร และพ่อก้อน วันศุกร์ ปราชญ์ของชุมชน ที่บอกว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแสดงอภินิหารให้ปรากฏอยู่หลายครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2508 ซึ่งเป็นปีที่นักแสวงโชคออกหาพระพุทธรูปเพื่อนำไปขายหรือส่งออกต่างประเทศตามความต้องการของตลาด ก็ได้มีนักแสวงโชคมาแอบขโมยหลวงพ่อทอง ใช้คนหาม 4 คน มุ่งหน้าไปทางบ้านหอยโนนดู่ อ.ยางชุมน้อย เดินทางทั้งคืนได้ประมาณ 2 กิโลเมตร จึงนำหลวงพ่อทองไปซ่อนไว้ในจอมปลวก วันต่อมาไปจ้างวานเกวียนของบ้านเห็ดผึ้งหนองก่ามมาขน เดินทางไปได้ระยะหนึ่งเกวียนก็หัก และได้นำพระพุทธรูปไปทิ้งลงในบ่อน้ำ ชาวบ้านตามหาจนพบจึงได้นำกลับบ้านด่าน ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2518 ได้มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลกลับมาขโมยหลวงพ่อทอง บรรทุกใส่รถจี๊ป นำไปถึง อ.ราษีไศล และนำไปเก็บไว้ที่บริเวณบ้านของตนเอง แต่เกิดอาการวิตกจริต จึงได้นำไปซ่อนไว้ที่ป่าละเมาะหาดทรายแม่น้ำมูลใกล้วัดกลาง ชาวบ้านไปค้นหาจนพบและนำไปไว้ที่ สภ.ราษีไศล และได้นำไปเก็บไว้ที่ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ เมื่อพิสูจน์ได้ว่าเป็นหลวงพ่อทองวัดบ้านด่าน จึงได้นำกลับมาที่วัดบ้านด่าน และสร้างกรงใส่หลวงพ่อทองไว้เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายใจบาปมาลักเอาหลวงพ่อทองได้อีกต่อไป
นายทิวา รุ้งแก้ว ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดศรีสะเกษ กล่าว่า นายขจรศักดิ์ ศรีบุญเรือง คหบดีลูกหลานชาวบ้านด่าน ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีความเชื่อส่วนบุคคลว่า เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไปสอบเรียนต่อกรุงเทพสอบไม่ได้ จึงไปขอพรจากหลวงพ่อทอง ขอให้สอบได้ ปรากฏว่าสอบได้ที่ มศว.ประสานมิตร นำความปลื้มปิติยินดีมาสู่ญาติมิตรเป็นจำนวนมาก หลังจากประกอบสัมมาชีพที่กรุงเทพฯได้กลับมาบ้าน และไปขอพรจากหลวงพ่อทองโดยได้อธิษฐานว่าถ้าประกอบอาชีพเจริญก้าวหน้ามีอยู่มีกินจะมาอุปถัมภ์สร้างวิหาร เพื่อนำหลวงพ่อทองออกจากกรงขัง ปรากฏว่า เกิดผลสำเร็จดังที่กล่าว จึงได้สร้างวิหารหลวงพ่อทอง กว้าง 15 เมตร ยาว 39 เมตร ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบประมาณแล้วจำนวน 18 ล้านบาทเศษ และในปีนี้เป็นปีมหามงคล คณะกรรมการจึงได้สร้างซุ้มประตูวัดบ้านด่าน กำหนดวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 7 ส.ค. 2565 เวลา 10.30 น. โดยได้เชิญ พลเอกสันติพงษ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการกองทัพบก เลขาธิการ กอ.รมน. มาเป็นประธานอย่างเป็นทางการ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียงทุกหมู่เหล่า ร่วมกิจกรรมงานเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา มหาวชิราลงกรณ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงครบ 90 พรรษาและเฉลิมฉลองหลวงพ่อทองมาประดิษฐานที่วัดบ้านด่าน ครบ 70 ปี ตามวันเวลาดังกล่าวด้วย